Yearly Archives: 2017

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 29 พ.ย.2560-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) โดยดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ขานรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ดัชนี Nasdaq ปิดร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นเฟซบุ๊ก แอปเปิล และอัลฟาเบท ปิดตลาดในแดนลบถ้วหน้าดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,940.68 จุด พุ่งขึ้น 103.97 จุด หรือ +0.44% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,626.07 จุด ลดลง 0.97 จุด หรือ -0.04% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,824.39 จุด ลดลง 87.97 จุด หรือ [...]

xs sm md lg • หน้าหลัก • Breaking News • ภาคใต้ • ภูมิภาค • Online Section • Entertainment • หนังสือพิมพ์รายวัน • Columnist • ละครออนไลน์ • CbizReview • Cyber BIZ • Special Sections • GoodHealth • Green Innovation & CSR • Management & HR • Live-Lite • Politics • Travel • Sport • Around the world • [...]

xs sm md lg • หน้าหลัก • Breaking News • ภาคใต้ • ภูมิภาค • Online Section • Entertainment • หนังสือพิมพ์รายวัน • Columnist • ละครออนไลน์ • CbizReview • Cyber BIZ • Special Sections • GoodHealth • Green Innovation & CSR • Management & HR • Live-Lite • Politics • Travel • Sport • Around the world • [...]

แผนปฏิรูปภาษีสหรัฐฯเสียงแตก สภาผู้แทนฯมองสวนวุฒิสภา ฉุดนักลงทุนไม่เชื่อมั่นเฟดจะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในเร็วๆนี้ กดดันดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนตัว สวนทางทองคำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ภาพรวมอาจเห็นการทยอยปรับขึ้นราคา แต่ควรระวังแรงเทขายทำกำไรหากยังไม่สามารถยืนเหนือ 1,307 เหรียญ/ออนซ์"วรุต รุ่งขำ" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำที่ผ่านมาว่า แนวโน้มหรือโมเมนตัมของราคากลับมาเป็นบวกมากขึ้น จากการแกว่งตัวลงของดัชนีดอลลาร์สหรัฐที่ได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มที่สภาผู้แทนราษฎร์และวุฒิสภาของสหรัฐฯมีความเห็นที่แตกต่างกันต่อการปฏิรูปร่างกฏหมาย ซึ่งวุฒิสภามีการเสนอให้มีการเลื่อนปรับลดภาษีดังกล่าวออกไปอีกเป็นเวลา 1 ปี ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นต่อการปฏิรูปภาษี และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่"เรื่องดังกล่าวทำให้เกิดคาดการณ์ว่าหากไม่เกิดการปฏิรูปภาษี อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายออกไป"ขณะเดียวกัน มีการประกาศหมดวาระของประธานเฟดสาขานิวยอร์ค ซึ่งส่งผลให้เฟดจำเป็นจำเป็นต้องหาประธานสาขานิงยอร์คคนใหม่ นั่นหมายถึงทำให้ขาดคะแนนเสียงในการลงมติออกไป กลายเป็นปัจจัยที่เข้ามาสนับสนุนและส่่งผลบวกต่อราคาทองคำเพิ่มเติมสำหรับปัจจัยที่ยังต้องติดตาม ยังเป็นทิศทางเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯซึ่งที่ผ่านมาถือว่าค่อนข้างดี และยังทำให้เฟดสามารถคุมเข้มนโยบายทางการเงิน จนส่งผลให้นักลงทุนอีกส่วนยังคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธันวาคมนี้ โดยตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าสนใจได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อ หรือดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI),ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)ประจำเดือนตุลาคมซึ่งข้อมูลทั้ง 2 ตัวจะเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดี"หากเงินเฟ้อมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ปัจจัยดังกล่าวจะกระตุ้นให้เฟดสามารถคุมเข้มนโยบายทางการเงินได้มากยิ่งขึ้น และจะกลับมาเป็นปัจจัยที่เข้ามากดดันราคาทองคำ รวมตัวเลขยอดค้าปลีก และรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน ฯลฯ"โดยกลยุทธ์การลงทุน ถึงแม้ราคาทองคำจะเป็นบวกมากขึ้น แต่ยังพบแรงเทขายทำกำไรสลับออกมาเช่นเดิม ทำให้มีแนวรับที่ระดับ 1,266 เหรียญ/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดขอิงสัปดาห์ก่อนหน้า หากราคายังไม่มีการอ่อนตัวลงจนหลุดแนวรับในโซนดังกล่าว แนะนำว่าสามารถเข้าลงทุนเพื่อทำกำไรจากการดีดตัวของราคาได้อย่างไรก็ตามหากราคาดีดตัวขึ้นอาจพิจารณาแบ่งทองคำออกขายเพื่อลดความเสี่ยง โซนบริเวณ 1,300 - [...]

14 พฤศจิกายน 2560 4 "ครม." ไฟเขียวเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม จากการซื้อ-ขายทองคำแท่งผ่านตลาดล่วงหน้า ยันไม่กระทบรายได้จัดเก็บรัฐ นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ในวันนี้ว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการซื้อขายทองคำแท่งตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีการรับมอบส่งมอบทองคำแท่ง โดยกำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้จากการขายทองคำแท่งที่มีความบริสุทธิ์ 99.99% ตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งกระทำในศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า นอกจากนี้ยังรวมถึงเงินชดเชยเลื่อนการรับมอบส่งมองทองคำแท่งตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้า นอกจากนี้ยังรวมถึงการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการประกอบกิจการซื้อขายทองคำแท่งที่มีความบริสุทธิ์ 99.99% ที่ยังไม่ขึ้นรูปเป็นทองรูปพรรณ ตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งกระทำในศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า "การยกเว้นภาษี จะประกอบด้วย สำหรับผู้มีเงินได้ซึ่งได้รับเงินได้ส่วนที่เกินกว่าที่ลงทุนจากการขายทองคำแท่งดังกล่าว และอีกกรณีคือ สำหรับผู้มีเงินได้จากการชดเชยที่ได้รับจากกรณีเลื่อนการรับมอบส่งมอบทองคำแท่งที่มีความบริสุทธิ์ดังกล่าว ตามสัญญาช่วงหน้า ซึ่งกระทำในศูนย์และยอมให้ผู้จ่ายเงินได้หักภาษี ณ ที่จ่ายที่ 15% ของเงินได้ดังกล่าว เมื่อถึงกำหนดยื่นรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้ " นายณัฐพร กล่าว โดยกระทรวงการคลัง เสนอว่า ปัจจุบัน บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และธนาคารแห่งประเทศไทยในการดำเนินการให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำที่มีการส่งมอบบสินค้าอ้างอิง โดยมีสัญญา Gold-D Futures เป็นสัญญาแรก ทั้งนี้ สัญญาดังกล่าวนั้น [...]

ถึงแม้จะมีรายงานว่าปริมาณการบริโภคทองคำจากจีนซึ่งเป็นผู้บริโภครทองคำเป็นอันดับ 1 ของโลกจะแข็งแกร่งขึ้นในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2017 สู่ระดับ 815.89 ตัน แต่ดูเหมือนว่าปริมาณการบริโภคทองคำในปี 2017 ของอินเดียที่เป็นผู้บริโภคทองคำในทุกกิจกรรมตั้งแต่การลงทุนไปจนถึงการแต่งงาน และเป็นผู้บริโภคทองคำมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากจีน มีโอกาสจะปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปีรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงจากข้อมูลของ World Gold Council (WGC) ว่าปริมาณการบริโภคทองคำของอินเดียในปี 2017 มีโอกาสจะปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปี โดยได้รับแรงกดดันจากความพยายามที่จะทำให้การซื้อขายทองคำโปร่งใสมากยิ่งขึ้น บวกรวมกับปริมาณความต้องการที่ซบเซาลงในพื้นที่ชนบทบางแห่ง ทางด้านกรรมการผู้จัดการ WGC ของอินเดีย กล่าวว่า ปริมาณความต้องการทองคำของปี 2017 อาจอยู่ที่ระดับ 650 ตัน ปรับตัวลงจากปริมาณความต้องการทองคำเฉลี่ย 10 ปีที่ผ่านมาที่ระดับ 845 ตัน ขณะที่ปริมาณความต้องการทองคำจากอินเดียตลอดปี 2016 อยู่ที่ระดับ 666.1 ตันในเดือนไตรมาส 3 การเริ่มต้นใช้ภาษี Goods and Services Tax (GST) และกฎหมายต่อต้านการฟอกเงินในการทำธุรกรรมค้าปลีกเครื่องประดับเป็นอุปสรรคต่อผู้ซื้อทองคำ ขณะที่ภาษี Goods [...]

    กรุงเทพฯ – ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนพฤศจิกายน 2560 ปรับลดลง 1.64 จุด จากระดับ 50.36 จุด มาอยู่ที่ระดับ 48.72 จุด หรือ ลดลง  3.26 % ด้านแบบสำรวจผู้ค้าทองรายใหญ่ให้มุมมองกรอบราคาทองต่างประเทศอยู่ที่ 1,221 – 1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศ ความบริสุทธิ์ 96.5 % ให้กรอบราคา 19,501 – 21,000 บาท ต่อน้ำหนัก 1 บาททองคำ     ดร.พิบูลย์ฤทธิ์  วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ - ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนพฤศจิกายน 2560 ปรับลดลง 1.64 จุด จากระดับ 50.36 จุด มาอยู่ที่ระดับ 48.72 จุด หรือ ลดลง  3.26 % [...]

ถึงแม้ราคาทองคำจะเผชิญกับปัจจัยกดดันในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดในวันที่ 19-20 ก.ย. หลังเฟดประกาศแผนที่จะเริ่มปรับลดงบดุลพร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ ส่งผลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้นและหนุนดอลลาร์สหรัฐให้แข็งค่ากดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลงแรงและกลับมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง นอกจากนี้การคาดการณ์ในเชิงบวกต่อแผนการปฏิรูปภาษีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอให้มีการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล ลงสู่ระดับ 20% จากปัจจุบันที่ระดับ 35% และลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาขั้นสูงสุดลงสู่ระดับ 35% จากปัจจุบันที่ 39.6%เป็นอีกปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาทองคำในเดือนกันยายนในเดือนตุลาคมราคาทองคำปรับตัวลงต่อ โดยปัจจัยหลักที่เข้ามากดดันราคาทองคำได้แก่การคาดการณ์ว่าความวิตกว่าประธานเฟดคนต่อไปที่จะมาดำรงตำแหน่งต่อจากนางเจเน็ต เยลเลนจะมีแนวคิดสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงินจนอาจทำให้เฟดปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาทองคำ ประกอบกับธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุด พร้อมทั้งประกาศขยายโครงการซื้อพันธบัตร(QE)ออกไปจนถึงปี 2018 และลดวงเงินลงสู่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือนโดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนม.ค. ปีหน้า อีกทั้งยังส่งสัญญาณเปิดทางสำหรับการขยายเวลาโครงการซื้อพันธบัตรเลยไปจากเดือนก.ย.ปีหน้าหากมีความจำเป็น ซึ่งการขยายโครงการซื้อพันธบัตรออกไปลดโอกาสที่อีซีบีจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี2018 ขณะที่สัญญาณในเชิงไม่เร่งรีบคุมเข้มนโยบายการเงินเป็นอีกปัจจัยที่กดดันสกุลเงินยูโรให้ร่วงลง ส่วนสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 เดือนถึงแม้ราคาทองคำจะเผชิญกับแรงกดดันต่อเนื่อง แต่ราคาทองคำยังคงสามารถรักษาฐานเหนือระดับ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อทองคำจากฝั่งจีน เห็นได้จากข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อวันพุธที่ 29 ต.ค. อ้างอิงรายงานจาก China Gold Association ว่าปริมาณการบริโภคทองคำของจีนเพิ่มขึ้น 15.49% ในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2017 สู่ระดับ 815.89 ตัน โดยแรงซื้อทองคำแท่งเพิ่มขึ้น 44.45% ขณะที่เครื่องประดับทองคำก็ปรับตัวสูงขึ้น 7.44% [...]

หลายปัจจัยกดดันราคาทองคำช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลง แนะติดตามการเสนอชื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐฯคนใหม่ กับท่าทีต่อนโยบายทางการเงินประเมินเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวอยู่แถวบริเวณ 1,236 เหรียญ แต่หากดีดตัวขึ้นและไม่สามารถรักษาระดับฐาน 1,288 เหรียญได้แนะนำแบ่งทองคำออกขายเพื่อลดความเสี่ยง"เบญจมา มาอินทร์" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวถึงราคาทองคำที่ผ่านมา ปิดตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะปิดตัวในแนวลบลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดยได้รับการกดดันจาก 4 ปัจจัยหลัก ปัจจัยแรก คือชัยชนะของพรรครัฐบาลญี่ปุ่นซึ่งทำให้มาตราการผ่อนคลายนโยบายการเงินเป็นพิเศษน่าจะมีอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นปัจจัยที่หนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมือเทียบกับสกุลเงินเยน และเป็นปัจจัยแรกที่กดดันราคาทองคำขณะที่ปัจจัยที่สองที่เข้ามากดดันราคาทองคำ คือการคาดการณ์ว่าประธานเฟดคนใหม่น่าจะเป็นนายจอห์น เทย์เลอร์ ซึ่งมีแนวคิดสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายทางการเงิน ปัจจัยที่สาม คือการคาดการณ์ในเชิงบวกมากขึ้น เกี่ยวกับการปฏิรูปภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ และปัจจัยล่าสุดที่เข้ามากดดันราคาทองคำคือ ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ซึ่งคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด อีกทั้งยังมีการขยายมาตราการเข้าซื้อพันธบัตรต่อเนื่อง เป็นปัจจัยหนึ่้งที่กดดันให้เกิดแรงขายทำกำไรในสกุลเงินยูโรและหนุนสกุลเงินดอลลาร์ให้แข็งค่า ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาทองคำสัปดาห์ปัจัยที่ต้องติดตาม ประเมินว่ามีหลากหลายปัจจัยที่จะเข้ามาส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ประเด็นแรกที่จะต้องจับตาคือการเปิดเผยการร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี ซึ่งคาดการณ์กันว่าพรรครีพลับลิกัน จะมีการเปิดเผยร่างดังกล่าวในวันที่ 1 พฤศจิกายน ถ้าหากนักลงทุนคาดการณ์ในเชิงบวกมากขึ้น การปฏิรูปภาษีน่าจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่หนุนสกุลเงินดอลลาร์และกดดันราคาทองคำได้ส่วนปัจจัยที่สองที่จะต้องติดตามคือการเสนอชื่อประธานเฟดคนใหม่ ของ "ทรัมป์" อาจจะต้องจับตาว่าจะเลือกใครเป็นประธานเฟดคนใหม่ เพราะถ้าหากประธานเฟดคนใหม่มีแนวคิดสนับสนุนนโยบายทางการเงิน อาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่หนุนสกุลเงินดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกดดันราคาทองคำได้ ในทางกลับกัน [...]

ถึงแม้จีน และอินเดียจะเป็น 2 ประเทศที่บริโภคทองคำมากที่สุดในโลก ทั้งชาวจีน และอินเดียต่างก็ให้คุณค่าแก่ทองคำไม่เพียงแต่สำหรับเป็นเครื่องประดับเพื่อความงามเท่านั้น แต่ยังถือเป็นความมั่นคงทางการเงินอีกด้วย มีการคำนวณกันว่า ครัวเรือนชาวอินเดียถือครองทองคำส่วนตัวมากที่สุดในโลก อยู่ที่ประมาณ 24,000 ตัน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเกินกว่าปริมาณทองคำสำรองอย่างเป็นทางการของสหรัฐ เยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส จีน และรัสเซียรวมกันก่อนปี 2008 การลงทุนของเยอรมนีในด้านทองคำแทบไม่เป็นที่สนใจของทุกคน โดยเยอรมนีมีความต้องการทองคำเฉลี่ยต่อปีที่ 17 ตัน ขณะที่กองทุน ETC ที่หนุนด้วยทองคำไม่ได้รับความนิยมในตลาด จนกระทั่งปี 2007 ดังนั้น การที่เยอรมนีก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำระดับโลกในการลงทุนทองคำกลายเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ และถือเป็นพัฒนาการอย่างเงียบๆ ในช่วงตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา สาเหตุสำคัญที่ทั้ง usfunds.com และ World Gold Council กล่าวว่า เป็นจุดเริ่มต้นของความสนใจลงทุนในทองคำของชาวเยอรมนี ได้แก่ วิกฤตทางการเงินที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2008 เป็นปัจจัยผลักดันให้ชาวเยอรมันจำนวนมากแสวงหาเครื่องรักษามูลค่าที่มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น WGC กล่าวว่า ในขณะที่โลกกังวลเกี่ยวกับ Lehman Brothers นักลงทุนเยอรมันกังวลเรื่องสถานะของระบบธนาคาร Landesbanks ซึ่งคู่ค้าที่มั่นคงของบริษัทเยอรมนีเกิดการสั่นคลอน ทำให้คนจำนวนมากกังวลเกี่ยวกับเงินออมของพวกเขาและเพื่อแก้วิกฤตการเงิน ทำให้ธนาคารกลางยุโรป [...]