นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวันนี้จะมีการประชุมเครือข่ายกรมการแพทย์ และโรงเรียนแพทย์ เพื่อแก้ไขและจัดลำดับความสำคัญในการดูแลผู้ป่วยหนักสีแดงที่มีอาการรุนแรง ให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที และมีเตียงรองรับเพียงพอ ลดการเสียชีวิตให้ได้มากที่สุด
โดยมีข้อเสนอการดูแลกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) เน้นในผู้ป่วยโควิดสีเขียวที่ไม่มีอาการให้รักษาที่บ้าน เพื่อเข้าระบบ ให้มีเตียงดูแลผู้ป่วยอาการหนัก
โดยได้มีการหารือกับภาคเอกชนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี เช่น จัดทำระบบติดตามตัว ระบบข้อความแจ้งเตือน และระบบการรายงานผลออกซิเจนและอุณหภูมิ เพื่อส่งรายงานผลไปยังโรงพยาบาลต้นสังกัด หรือโรงพยาบาลที่ดูแล ให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมทันท่วงทีและเร็วที่สุด ป้องกันกรณีที่มีอาการหนักแต่ไม่ได้รับการดูแล รวมถึงเป็นการช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์อีกด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเดินหน้าพัฒนาระบบ
นายสาธิต กล่าวต่อว่า ในวันนี้ได้ลงมาเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนโรงพยาบาลศรีธัญญา ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดฉีดภายใต้กระทรวงสาธารณสุข ให้บริการในพื้นที่กทม. ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา สามารถรองรับประชาชนได้มากถึง 2,000 – 3,000 คนต่อวัน ให้บริการฉีดวัคซีนในกลุ่มบุคลากรด่านหน้า เช่น ทหาร ตำรวจ และบุคลากรทางการศึกษา เป็นต้น โดยจองคิวผ่านหน่วยงาน/องค์กร และลงทะเบียนออนไลน์ผ่านแอพพลิเคชัน Queq ของโรงพยาบาล
ทั้งนี้ พบว่าที่นี่มีการจัดระบบอย่างเหมาะสม มีความคล่องตัว ประชาชนได้รับความสะดวก ทั้งสถานที่ การนัดหมายและการให้บริการ นอกจากนี้ ยังช่วยแบ่งเบาภาระงานจากศูนย์ฉีดวัคซีนสถาบันบำราศนราดูรได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม มีการเตรียมแผนรองรับนโยบายของรัฐบาลในการเร่งฉีดให้แก่ 2 กลุ่มเสี่ยง คือผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง เนื่องจากพบว่าสัดส่วนการเสียชีวิตพบมากกว่ากลุ่มอื่น หากมีวัคซีนเพียงพอ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 มิ.ย. 64)
Tags: COVID-19, Home Isolation, Queq, กักตัวควบคุมโรค, กักตัวที่บ้าน, ผู้ป่วยโควิด, สาธิต ปิตุเตชะ, แอพพลิเคชัน, โควิด-19