จีนอัดฉีดเงินอีก 7 หมื่นล้านหยวน หวังปกป้องระบบการเงินจากปัญหาเอเวอร์แกรนด์

ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบอีก 7 หมื่นล้านหยวนในวันนี้ ส่งผลให้ยอดรวมการอัดฉีดเงินในช่วงเวลา 5 วันของสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นเป็น 4.60 แสนล้านหยวน (7.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยมีเป้าหมายที่จะหลีกเลี่ยงภาวะสภาพคล่องตึงตัวในระบบ อันเนื่องมาจากบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ประสบปัญหาสภาพคล่องลดลงและมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้

ผู้บริหารของเอเวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีน ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงใด ๆ ต่อบรรดาผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัท แม้ขณะนี้ได้เลยกำหนดการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้จำนวน 2 งวดแล้วก็ตาม โดยเมื่อวานนี้ (23 ก.ย.) เอเวอร์แกรนด์มีกำหนดจ่ายดอกเบี้ยวงเงิน 232 ล้านหยวน หรือราว 35.88 ล้านดอลลาร์สำหรับหุ้นกู้สกุลเงินหยวนที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนก.ย.2568 รวมทั้งจ่ายดอกเบี้ยอีกก้อนหนึ่งวงเงิน 83.5 ล้านดอลลาร์สำหรับหุ้นกู้สกุลดอลลาร์ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนมี.ค.2565

นอกจากนี้ เอเวอร์แกรนด์ยังมีดอกเบี้ยที่รอการชำระอีกในวันที่ 29 ก.ย.จำนวน 47.5 ล้านดอลลาร์สำหรับหุ้นกู้สกุลดอลลาร์ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนมี.ค.2567

ทั้งนี้ หากเอเวอร์แกรนด์ไม่สามารถชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้ได้ตามกำหนด ทางบริษัทก็จะมีเวลาอีก 30 วันหลังวันครบกำหนดชำระเพื่อหาทางจ่ายหนี้ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะถูกประกาศว่าบริษัทผิดนัดชำระหนี้

เอเวอร์แกรนด์มีหนี้สินมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ เทียบเท่ากับ 2% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีน หลังจากที่บริษัทได้ทำการกู้เงินมาเป็นเวลาหลายปีเพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ย. 64)

Tags: , , ,