ดาวโจนส์ปิดลบ 192.38 จุด วิตกข่าวระเบิดสนามบินคาบูล

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่สนามบินกรุงคาบูลของอัฟกานิสถาน ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากเจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดเร่งปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,213.12 จุด ลดลง 192.38 จุด หรือ -0.54%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,470.00 จุด ลดลง 26.19 จุด หรือ -0.58%
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,945.81 จุด ลดลง 96.05 จุด หรือ -0.64%

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ระเบิดสนามบินกรุงคาบูลเมื่อคืนนี้ โดย Politico ซึ่งเป็นสื่อสหรัฐรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่สหรัฐว่า มือระเบิดฆ่าตัวตายซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มรัฐอิสลาม (ISIS) ได้ก่อเหตุระเบิดในครั้งนี้

รายงานล่าสุดระบุว่า เหตุระเบิดครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 60 ราย และบาดเจ็บ 140 ราย โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่อังกฤษและสหรัฐออกคำเตือนแก่พลเมืองที่ยังคงตกค้างในอัฟกานิสถานให้อยู่ห่างจากสนามบินกรุงคาบูล เนื่องจากมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายโจมตี

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ กล่าวให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว Fox ว่า เฟดควรเริ่มปรับลดวงเงิน QE โดยเร็ว ซึ่งจะดีกว่าที่จะปล่อยให้ล่าช้าออกไป เนื่องจากมีการคาดการณ์กันว่าเศรษฐกิจสหรัฐและตลาดแรงงานจะยังคงมีการขยายตัวต่อไป

ทางด้านนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัสกล่าวว่า เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้นในขณะนี้จะเป็นแรงผลักดันให้เฟดเริ่มปรับลดวงเงิน QE ในเดือนต.ค.นี้ หรืออาจจะเร็วกว่านั้น ขณะที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เฟดควรปรับลดวงเงิน QE โดยเร็ว เพื่อให้โครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ยุติลงในช่วงต้นปี 2565 และปูทางให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีดังกล่าว

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปรับตัวลง นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 1.51% ทั้งนี้ หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 2.06% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ลดลง 1.59% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.38% หุ้นเชฟรอน ลดลง 1.31% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 2.56%

หุ้นดอลลาร์ เจเนอรัล และหุ้นดอลลาร์ ทรี ซึ่งเป็นห้างดิสเคาท์สโตร์ ร่วงลง 3.9% และ 12.08% ตามลำดับ หลังจากทั้งสองบริษัทระบุว่า ต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัท

หุ้นโคตี้ ผู้ผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่ของสหรัฐ ทะยานขึ้น 14.63% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ยอดขายเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2564 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 6.6% ในไตรมาส 2 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ที่ระดับ 6.5% หลังจากที่ขยายตัว 6.3% ในไตรมาส 1

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 353,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับ 349,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้

นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมประจำปีของเฟดในวันนี้ โดยนายพาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ในประเด็น “แนวโน้มเศรษฐกิจ” ในเวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย

นักลงทุนคาดหวังว่า นายพาวเวลจะเปิดเผยโร้ดแมพที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดวงเงิน QE หลังจากที่เฟดได้ส่งสัญญาณในรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ว่า กรรมการส่วนใหญ่สนับสนุนให้เฟดเริ่มปรับลดวงเงิน QE ในปีนี้ จากปัจจุบันที่เฟดซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ส.ค. 64)

Tags: , , ,