ตลท.เปิดเฮียริ่งปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขาย 1-12 พ.ย.ยกระดับคุมหุ้นร้อน

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า เนื่องด้วยในปี 64 สภาพการซื้อขายมีความร้อนแรงขี้นโดยเฉพาะในหลักทรัพย์ขนาดเล็ก ทำให้มาตรการกำกับการซื้อขายที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของการกำกับดูแลในบางหลักทรัพย์ที่สภาพการซื้อขายยังคงเปลี่ยนแปลงไปโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับได้ แม้หลักทรัพย์ดังกล่าวจะอยู่ในมาตรการกำกับการซื้อขายเป็นระยะเวลานาน หรือปรับเพิ่มมาตรการจนถึงระดับสูงสุดที่มีและได้ยกระดับการดำเนินการแล้วก็ตาม

ดังนั้น ตลท.จึงมีแนวคิดที่จะปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขายให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อให้การกำกับดูแลการซื้อขาย 1.สอดรับกับสภาพการซื้อขายที่ร้อนแรงขึ้นในปี 64 โดยมีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน และ %Turnover Velocity ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างมาก (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน ก.ย.64 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 96,463 ล้านบาท ด้วย %Turnover Velocity ที่0.51% จากปีก่อนที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 68,607 ล้านบาท ด้วย % Turnover Velocity ที่0.42%),

2.เพิ่มประสิทธิภาพมาตรการเดิมที่ประสิทธิผลลดลง (จำนวนหลักทรัพย์ที่เข้ามาตรการในระดับสูงสุดมากขึ้น และสภาพการซื้อขายยังคงปรับตัวไม่สอดรับกับพื้นฐานแม้อยู่ในระดับมาตรการขั้นสูงสุดแล้วก็ตาม)

และ 3.สอดคล้องกับมาตรการของตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศที่กำหนดให้การห้ามซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราวเป็นหนึ่งในมาตรการกำกับการซื้อขาย เช่น เกาหลี, ไต้หวัน เป็นต้น

โดย ตลท.เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขายตั้งแต่วันที่ 1-12 พ.ย.64 ทางลิงค์ https://forms.gle/sPond7CY1HWKMUNf7 ซึ่งมีสาระสำคัญ คือ เสนอปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขายในปัจจุบันให้ดำเนินการป้องกันความเสี่ยงให้เร็วขึ้น โดยการรวบมาตรการระดับ 1 และ 2 เข้าด้วยกัน โดยให้เริ่มมาตรการระดับ 1 ด้วยการให้ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance และห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย

นอกจากนี้ ยังกำหนดเพิ่มการห้ามซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราวเป็นระยะเวลา 1 วันทำการ เป็นมาตรการระดับ 3 ด้วย เพื่อให้ผู้ลงทุนได้พิจารณาทบทวนก่อนตัดสินใจซื้อขาย

โดยมีรายละเอียดดังนี้

มาตรการระดับ 1 ให้ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance โดยเพิ่มห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย

มาตรการระดับ 2 ให้ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance และห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย โดยเพิ่ม ห้าม net settlement

มาตรการระดับ 3 เพิ่มเติม ห้ามซื้อขายเป็นการชั่วคราว 1 วันทำการ และเมื่ออนุญาตให้ซื้อขาย ยังคงให้ซื้อด้วยบัญชี cash balance และห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย รวมถึงห้าม net settlement

สำหรับมาตรการที่ ตลท.ใช้อยู่ในปัจจุบันมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงให้กับผู้ลงทุนที่จะซื้อหลักทรัพย์ที่มีสภาพการซื้อขายเปลี่ยนแปลงไปโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ ด้วยการเพิ่มเงื่อนไขการซื้อขายบางประการเพื่อจำกัดอำนาจซื้อ โดยแบ่งเป็น 3 ระดับขั้น เริ่มจากอ่อนไปเข้ม ดังนี้

มาตรการระดับ 1 ให้ซื้อด้วยการวางเงินสดเต็มจำนวนก่อนซื้อ (ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance)

มาตรการระดับ 2 เพิ่มมาตรการห้ามนำหลักทรัพย์ที่มีสภาพผิดปกติดังกล่าวเป็นหลักประกันในการคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย จากมาตรการระดับหนึ่ง

มาตรการระดับ 3 เพิ่มมาตรการห้ามหักกลบค่าซื้อกับค่าขายภายในวัน (ห้าม Net Settlement) จากมาตรการระดับสอง

แนวทางในการพิจารณาหลักทรัพย์ที่เข้ามาตรการกำกับการซื้อขายจะแบ่งเป็นสองส่วนหลัก คือ มาตรการรายวัน (Trading Alert) และมาตรการรายสัปดาห์ (Turnover List) เมื่อหลักทรัพย์เข้ามาตรการกำกับการซื้อขาย ตลท.จะประกาศ ณ สิ้นวัน โดยให้มีผลตั้งแต่วันทำการรุ่งขึ้นและตามระยะเวลาที่กำหนด โดยจะเริ่มจากมาตรการระดับ 1 ซื้อด้วยบัญชี Cash Balance เป็นมาตรการแรก และในระหว่างมาตรการหรือเมื่อพ้นมาตรการไปแล้วไม่เกิน 1 เดือน หากหลักทรัพย์มีสภาพผิดปกติเข้าข่าย Trading Alert ตลท.จะเพิ่มมาตรการให้สูงขึ้นอีกหนึ่งระดับ ทั้งนี้ หากหลักทรัพย์ยังคงมีสภาพผิดปกติอีก ตลท.อาจพิจารณาขยายมาตรการเดิมออกไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 พ.ย. 64)

Tags: , ,