นายกฯ ย้ำทุกส่วนราชการเร่งรัดขับเคลื่อนการทำงาน คำนึงถึงความต้องการทุกภาคส่วน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 2/2564 (ผ่านระบบ Video Conference) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นโอกาสที่จะได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการบริหารราชการแผ่นดิน การบูรณาการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค ตลอดจนแผนงาน แผนคน และแผนงบประมาณ รวมทั้งติดตามข้อสั่งการที่กระทรวงต่าง ๆ ภายใต้การบูรณาการความร่วมมือของทุกฝ่าย

ซึ่งขณะนี้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เริ่มดีขึ้น และรัฐบาลได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้น ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยการทำงานต่อไปให้ยึดหลัก 3 เรื่อง ได้แก่ 1.Hardware คือ โครงสร้างต่าง ๆ แนวคิด นโยบาย งานตามหน้าที่ Function และงาน Agenda 2.Software คือ งานในส่วนที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติม รวมถึงเรื่องที่จะต้องแก้ไขปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ เช่น การแก้ไขกฎหมาย แพลตฟอร์มต่าง ๆ การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ความคิดริเริ่มต่าง ๆ และ 3.การเตรียมการด้านทรัพยากรมนุษย์รองรับโลกยุคใหม่ และหลังสถานการณ์โควิด-19 รวมทั้งเร่งสร้างความเข้าใจว่าจะต้องอยู่กับโควิด (Live with Covid) ประเทศชาติก้าวผ่านภาวะวิกฤตินี้ไปได้

นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้ภาคราชการต้องปรับตัว ปรับหลักคิด ปรับหลักการทำงานเข้าสู่ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) เป็น “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง” นำนวัตกรรมต่าง ๆ มาเสริมการทำงาน เป็นภาคราชการที่เปิดกว้างและเชื่อมโยงข้อมูลถึงกัน (Open and Connected) ตามแนวทางของแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

โดยนายกรัฐมนตรี ยังได้ย้ำถึงการบริหารจัดการน้ำภาพรวมของประเทศว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้เร่งแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการน้ำของประเทศอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ทั้งการระบายน้ำ การกักเก็บน้ำ การบริหารจัดการลุ่มน้ำต่าง ๆ ของประเทศ น้ำด้านการเกษตร อุตสาหกรรม การดูแลน้ำอุปโภคบริโภคให้กับประชาชนอย่างเพียงพอ การดูแลน้ำในการผลักดันน้ำเค็ม การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง เป็นต้น ภายใต้การบริหาราชการของรัฐบาล สทนช. ใช้เทคโนโลยีดาวเทียมเข้ามาปรับใช้ในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สามารถลดการสูญเสียและค่าเสียต่าง ๆ ได้มากขึ้น

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงกลาโหม, สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการทำงานร่วมกันและจัดหาเครื่องมือ ตลอดจนยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำท่วมสถานที่สำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชน เช่น โรงพยาบาล สถานที่ราชการ พื้นที่ธุรกิจ และที่อยู่อาศัยของประชาชน เป็นต้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ก.ย. 64)

Tags: , , ,