ผู้นำฝ่ายค้านฯ อัดรัฐบาลจัดทำงบฯ ปี 65 ไร้ยุทธศาสตร์-สร้างหนี้เพิ่ม

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายถึงการจัดทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 65 ของรัฐบาลว่า แผนการจัดงบประมาณท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตจากโควิด-19 ครั้งนี้ ไม่อาจให้งบประมาณฯ ปี 65 จำนวน 3.1 ล้านล้านบาทที่รัฐบาลเสนอมานี้ผ่านสภาฯ ไปได้ เนื่องจากการแก้ปัญหาของรัฐบาลในห้วงเวลาที่ผ่านมาทั้งยืดยาด ล่าช้า ไม่เท่าทันกับปัญหาและสถานการณ์ จนกระทั่งเกิดการระบาดของโควิดระลอกล่าสุด

สิ่งที่ประชาชนรับรู้และทำให้เศร้าใจ คือความไม่พร้อมในทุกด้านของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมรับมือกับปัญหาการระบาดของโรคในระลอกใหม่ ทั้งที่มีตัวอย่างจากประเทศต่างๆ ให้เห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ที่ประชาชนไม่สามารถจะอดทนได้อีกต่อไป คือเรื่องการวางแผนจัดเตรียมวัคซีน ถือว่า รัฐบาลตัดสินใจผิดพลาดอย่างมากเท่าที่เคยมีมา ทั้งที่รับรู้กันทั่วทั้งโลกว่า ทางออกสำหรับวิกฤตโควิด-19 คือ วัคซีน แต่ที่สำคัญประชาชนไม่สามารถเลือกวัคซีนที่ตนเองคิดว่าปลอดภัยที่สุด เพราะรัฐบาลกำหนดไว้จึงทำให้ประเทศไทยมีวัคซีนจำกัด

“การกระจายวัคซีนที่ไม่หลากหลาย รวดเร็ว ทั่วถึง และไม่ทันการ มันสะท้อนศักยภาพการบริหารของรัฐบาล โดยเฉพาะผู้นำที่ขาดวิสัยทัศน์ ไม่มีแผนรับมืออย่างเป็นระบบ” นายสมพงษ์ กล่าว

นายสมพงษ์ ระบุว่า งบฯ ปี 65 ซึ่งรัฐบาลนำเสนอเข้ามาให้พิจารณาต้องเรียนว่า เหมือนอยู่กันคนละโลกกับประชาชนเจ้าของประเทศ เพราะความเป็นจริงที่ทุกคนกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ คือ ยุทธศาสตร์การจัดการในภาวะวิกฤต เป็นหลักประกันสำคัญในการกำหนดงบประมาณ เมื่อยุทธศาสตร์มีลักษณะแยกส่วน หน่วยงานแยกกันแบบต่างหน่วยต่างทำ และแย่งกันทำงานอย่างไม่ประสานกัน การจัดการงบประมาณยิ่งสะท้อนความล้มเหลว และหละหลวมในการบริหาร

“วันนี้ประชาชนกำลังลำบากอย่างแสนสาหัส แต่รัฐบาลกลับวางแผนจัดงบประมาณปี 2565 ราวกับประเทศอยู่ในสถานการณ์ปกติดี นายกรัฐมนตรีไม่ได้ยินเสียงของประชาชนที่กำลังเดือดร้อน ดังระงมไปทุกภาคส่วนเลยหรือ” นายสมพงษ์ กล่าว

ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า การบริหารงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ภาวะเศรษฐกิจล้มระเนระนาด ผู้คนตกงานในระบบสูงที่สุดในประเทศ อัตราการว่างงานจะเริ่มมากขึ้นจนน่ากังวล หนี้ครัวเรือนสูงสุดในประวัติศาสตร์ชาติ เศรษฐกิจเสียหายถึงจำนวน 1 ล้านล้านบาท ไม่มีแนวโน้มจะดีขึ้น ยังไม่รู้ว่าจะจบสิ้นอย่างไร ตัวอย่างที่ล้มเหลวอย่างนี้ ประเทศเรากำลังอยู่ในภาวะที่สาหัส ภัยทางเศรษฐกิจคงจะคืบเข้ามาทำร้าย เป็นพิษต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ บริหารจัดการไม่ได้

อย่างไรก็ตาม การจัดสรรงบประมาณเช่นนี้ด้วยวิธีที่ไม่มียุทธศาตร์ ทำให้จีดีพีตกต่ำลง การจัดเก็บภาษีในปี 65 จะลดลง และต่อเนื่องไปถึงปีหน้า เกรงว่ารัฐบาลจะไม่มีเงินใช้ แต่รัฐบาลก็จะออก พ.ร.ก.เงินกู้มาจำนวนมากๆ บ่อยๆ แต่ต้องระวังว่าเมื่อกู้มาก ดอกเบี้ยก็ตามมามาก และจะติดกับดักตัวเอง หาทางออกไม่ได้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 พ.ค. 64)

Tags: , , , , ,