ศบค.ถกเข้มก่อนพิจารณาปรับมาตรการ ยันดูหลายองค์ประกอบร่วม แม้ตัวเลขติดเชื้อยังสูง

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า ในการประชุมศบค.ชุดใหญ่ วันพรุ่งนี้ (20 ม.ค.) จะมีประเด็นสำคัญทั้งในการพิจารณาปรับพื้นที่สี การผ่อนคลายมาตรการในบางพื้นที่หรือบางกิจกรรม การอนุญาตเปิดสถานบันเทิงหรือไม่ รวมทั้งการอนุญาตเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งจะเป็นการพิจารณาบนพื้นฐานข้อมูลตลอดช่วงที่ผ่านมาจากกระทรวงสาธารณสุข ทั้งในรูปแบบของการประชุม และการลงพื้นที่จริง

สำหรับการประชุม ศบค.ชุดเล็กในวันนี้ ได้มีการพิจารณาข้อมูลต่างๆ ก่อนที่จะนำข้อสรุปเสนอ ศบค.ชุดใหญ่วันพรุ่งนี้ โดยข้อมูลที่นำมาพิจารณา เช่น การติดเชื้อจากทั่วโลก ซึ่งแนวโน้มยังพุ่งสูงจากการระบาดที่รวดเร็วของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่ผู้ป่วยโควิด 98% เป็นการติดเชื้อจากสายพันธุ์โอมิครอน ขณะที่ทิศทางในประเทศไทยก็ใกล้เคียงกับสถานการณ์ในต่างประเทศที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่หลังปีใหม่ แต่อัตราการเสียชีวิตถือว่ายังอยู่ในระดับต่ำ

สำหรับยอดผู้ป่วยรายใหม่ใน 8 จังหวัดนำร่องท่องเที่ยวของไทย (กทม., ภูเก็ต, กระบี่, พังงา, กาญจนบุรี, นนทบุรี, ปทุมธานี, ชลบุรี) ก็ยังขยับขึ้นนับตั้งแต่หลังปีใหม่ ในขณะที่ 18 จังหวัดที่เปิดนำร่องท่องเที่ยวเป็นบางพื้นที่นั้น พบว่ายอดผู้ป่วยรายใหม่ยังอยู่ในระดับทรงตัว ไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นมาก

“การผ่อนคลายมาตรการ จะไม่ได้ดูแค่ตัวเลขผู้ติดเชื้อ แต่ต้องดูระบบสาธารณสุขในพื้นที่ว่ารับมือได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพหรือไม่ รายงานตัวเลขอย่างเดียวคงไม่ใช่ปัจจัยที่จะพิจารณาว่าผ่อนคลาย หรือไม่ผ่อนคลาย ต้องดูหลายๆ องค์ประกอบทุกมิติร่วมกัน” ผู้ช่วยโฆษก ศบค.ระบุ

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค พบว่าคลัสเตอร์ที่พบผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับหนึ่งยังเป็นร้านอาหาร และสถานบันเทิง รวมทั้งสถานบันเทิงกึ่งผับที่เปิดเป็นร้านอาหาร ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าทางร้านไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting อยางเคร่งครัด

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ร้านอาหาร และสถานบันเทิง ยังคงเป็นที่มาของคลัสเตอร์ที่มีผู้ติดเชื้อโควิดสูงสุดเป็นอันดับแรก คือ ไม่จัดการสภาพแวดล้อมภายในร้านให้เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นระบบระบายอากาศ ไม่จำกัดเวลานั่งรับประทานอาหารของลูกค้า ไม่เว้นระยะห่างของโต๊ะให้เหมาะสม นอกจากนี้ ยังไม่เข้มงวดในเรื่องการคัดกรองความเสี่ยงของพนักงานร้าน เช่น การตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ การฉีดวัคซีนโควิดให้ครบโดส รวมถึงไม่คัดกรองความเสี่ยงลูกค้าที่เข้ามารับบริการในร้านด้วย

ส่วนประเด็นการพิจารณาของ ศบค.ในเรื่องการอนุญาตเดินทางเข้าประเทศในรูปแบบ Test&Go หลังจากที่ระงับไปชั่วคราวนับตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 64 นั้น ทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ ตลอดจนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากพบปัญหาที่จุดใด ในพื้นที่จะได้เร่งแก้ไข ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยในภาพรวมที่ ศบค.ชุดใหญ่วันพรุ่งนี้ จะนำมาใช้ประเมินสถานการณ์เพื่อพิจารณาผ่อนคลายมาตรการต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ม.ค. 65)

Tags: , , , ,