ศบค.เตรียมคลายล็อกไซต์ก่อสร้างบางส่วน พร้อมรอฟังความเห็นสธ.ปรับมาตรการ

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศปก.ศบค.) เปิดเผยว่า ศปก.ศบค.ได้หารือถึงการคลายมาตรการปิดไซต์ก่อสร้างในกรุงเทพฯและปริมณฑลในบางส่วน ซึ่งเป็นไปตามคำขอของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับด้านวิศวกรรมที่เสนอแนะขึ้นมา ซึ่ง ศปก.ศบค.มองว่าเหมาะสมให้มีการผ่อนคลาย เพราะบางกิจการถ้ามีการปิดไซต์ก่อสร้างไปนานๆอาจมีผลกระทบต่อความปลอดภัยของโครงสร้างได้ จึงได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีก็ได้เห็นชอบ

ส่วนการประชุมในสัปดาน์นี้จะมีการผ่อนคลายหรือเข้มงวดมาตรการใดเพิ่มขึ้นหรือไม่นั้น พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า ขณะนี้กำลังรอฟังความเห็นของกระทรวงสาธารณาสุข โดยจะประเมินสถานการณ์และพิจารณามาตรการว่าหากเข้มงวดขึ้นจะทำให้การติดเชื้อลดลงหรือไม่ จึงต้องดูกันในรายละเอียดก่อน เนื่องจากมีความเป็นห่วงเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจ เพราะมีผู้ประกอบการเดือดร้อนจำนวนมาก แต่หากฝั่งกระทรวงสาธาณสุขยืนยันว่าจะต้องสั่งให้เข้มงวดยิ่งขึ้นก็จะต้องฟังเหตุผล เพราะไม่เช่นนั้นแล้วจะกระทบเศรษฐกิจระยะยาวมากขึ้น

ขณะที่มีรายงานข่าวว่ายังมีการลักลอบเปิดสถานบันเทิงแบบส่วนตัวนั้น พล.อ.ณัฐพล ระบุว่า ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานด้านความมั่นคงให้ช่วยกำกับดูแล โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการจับกุมดำเนินคดีในบางพื้นที่ ยอมรับว่าการลักลอบนั้นยากต่อการตรวจพบ โดยหากประชาชนพบให้แจ้งมายัง ศบค.ได้ทันที

ด้านข้อเสนอของนายแพทย์นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลให้จัดยาฟาวิพิราเวียร์ให้คนไข้ที่ติดเชื้อโควิดโดยเร็วว่า ขณะนี้ได้รับข้อเสนอมาพิจารณา 2 ประเด็น คือการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ที่มีความรวดเร็วขึ้น ส่วนบางพื้นที่ยังมีการใช้ยาสามัญประจำบ้านฟ้าทะลายโจรในกลุ่มอาการเบาบาง

ส่วนแนวคิด Home Isolation เมื่อวานนี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และผู้บริหาร กทม.มาหารือโดยให้ทาง กทม.เร่งทำระบบ Home Isolation ที่มีมาตรฐานยอมรับได้ และจัดตั้ง Community Isolation หรือโรงพยาบาลสนามในชุมชน แต่มาตรฐานอาจไม่เท่ากับโรงพยาบาลสนามหลัก

ทั้งนี้ ในพื้นที่ กทม.ต้องนำผู้ติดเชื้อเข้ารักษาในระบบให้ได้ และประสานโรงพยาบาลเอกชนรับตรวจ ซึ่งขณะนี้โรงพยาบาลเอกชนก็ห่วงเงื่อนไขเดิมที่ระบุว่าเมื่อตรวจพบจะต้องรับผู้ป่วยเข้ารักษา แต่เมื่อจำนวนเตียงมีจำกัดโรงพยาบาลเอกชนจึงหนักใจที่จะตรวจหาเชื้อ จึงต้องพยายามเปิดช่องทางให้ประชาชนเข้ามาตรวจ

พร้อมกับระบุว่า การรวบรวมตัวเลขผู้ติดเชื้อขณะนี้มาจาก 3 ส่วนหลัก คือ ผู้ที่เดินไปตรวจที่โรงพยาบาล จุดตรวจหาเชื้อของทาง กทม.6 จุด และการค้นหาเชิงรุกในชุมชน ซึ่งจะต้องนำผู้ป่วยทั้ง 3 กลุ่มเข้าสู่ระบบการรักษาให้ได้ และตั้งเป้าว่าผู้ป่วยทั้ง 100% ต้องเข้าสู่ระบบทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยของประชาชนทุกคน

ขณะที่ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการจะเข้าสู่ระบบ Home Isolation แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเข้าสู่ระบบ Home Isolation ได้ ต้องดูเรื่องความเหมาะสมสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย โดยหากอาการไม่รุนแรงทางโรงพยาบาลเอกชนต้องจัด Home Isolation แต่หากประเมินว่าคุณสมบัติไม่เหมาะสมให้ส่งมายัง Community Isolation ของ กทม.ซึ่งจะเร่งจัดตั้ง 20 จุด

พล.อ.ณัฐพล เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้ศูนย์ EOC กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับแผนยุทธศาสตร์รับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากปัจจุบันสิงคโปร์และมาเลเซียก็ได้ปรับยุทธศาสตร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปรับตามสิงคโปร์และมาเลเซีย เนื่องจากเงื่อนไขและสภาพแวดล้อมต่างกัน ดังนั้น ฝ่ายวิชาการของกระทรวงสาธารณสุขต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ค. 64)

Tags: , , , , , ,