ส.ผู้ค้าปลีก-ศูนย์การค้าฯ ขานรับมาตรการศบค. ขยายเวลาเปิดถึงสี่ทุ่ม มีผล 16 ต.ค.

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และนายนพพร วิฑูรชาติ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย ประกาศพร้อมปฏิบัติตามมาตรการการเฝ้าระวังการระบาดของโควิด เพื่อรับกับนโยบายเปิดประเทศที่รัฐบาลประกาศล่าสุด โดยจะยังเข้มงวดมาตรการเข้มข้นในการคัดกรองพนักงาน ผู้เกี่ยวข้อง และผู้บริโภคเข้าศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีก ตามปกติที่ดำเนินการ นับตั้งแต่วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศ ดังนี้

  • ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร และร้านค้าต่างๆ ในศูนย์การค้าเปิดให้บริการจนถึง 22.00 น.
  • ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์ท และแคชแอนด์แครี่ ที่ตั้งนอกศูนย์การค้า เปิดตามปกติ และปิดให้บริการ 22.00 น.
  • ร้านสะดวกซื้อ และตลาดสด เปิดบริการได้ 04.00 น. ถึง 22.00 น.
  • ร้านอาหารในศูนย์การค้า สามารถนั่งบริโภคในร้านได้ โดยร้านที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศสามารถนั่งได้ 75% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด และร้านที่ติดเครื่องปรับอากาศ สามารถนั่งได้ 50% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด และปิดให้บริการ 22.00 น.
  • สามารถเล่นดนตรีได้ตามแนวทางที่ราชการกำหนด และยังงดจำหน่ายงดดื่มสุราในร้าน
  • สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (นวด สปา) ร้านทำเล็บ ร้านสัก เปิดดำเนินการในศูนย์การค้าได้ แต่ต้องนัดหมายล่วงหน้า และให้บริการไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อคน และขอความร่วมมือลูกค้าที่เข้ารับบริการปฏิบัติตามมาตรการ Covid Free Setting อย่างเคร่งครัด
  • ธุรกิจโรงภาพยนตร์ หรือฉายภาพยนตร์ เปิดดำเนินการได้ถึงเวลา 22.00 น. และต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร หรือลดจำนวนผู้เข้ารับบริการเหลือประมาณ 50% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด และต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา รวมทั้งไม่อนุญาตให้รับประทานอาหารภายในโรงภาพยนตร์
  • ตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนสนุก สวนน้ำ ยังไม่เปิดให้บริการ
  • ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม และสถานที่จัดนิทรรศการในศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า สามารถจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนได้ไม่เกิน 50 คน กรณีเกิน 50 คน แต่ไม่เกิน 500 คน ต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อของจังหวัด/กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ต้องเว้นระยะห่างบุคคลอย่างน้อย 1 เมตร ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และต้องปฏิบัติตามที่คณะกรรมการควบคุมโรคแนะนำอย่างเคร่งครัด
  • หากมีประกาศของจังหวัดอื่นใด นอกเหนือจากนี้ ให้ปฏิบัติตามประกาศของจังหวัดนั้นๆ

ทั้ง 2 สมาคมฯ มีความเห็นว่า การบรรลุเป้าหมายนโยบายเปิดประเทศ ต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจจากทุกภาคส่วนในการจับมือวิ่งไปถึงเส้นชัยที่อยู่ไม่ไกลร่วมกัน

นอกจากนี้ ภาครัฐต้องเร่งฟื้นฟูศรษฐกิจอย่างจริงจังและตรงจุด สะท้อนผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ อาทิ มาตรการกระตุ้น การใช้จ่ายเพิ่มเติมในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีซึ่งเป็นไฮซีซั่น เช่น การนำ “มาตรการช้อปดีมีคืน” กลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ กระตุ้นการจับจ่ายให้กลับมาคึกคัก

“สมาคมฯ พร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อก้าวผ่านจากการเยียวยาสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างมั่นคง และยั่งยืน ควบคู่กับมาตรการควบคุมโรคที่เหมาะสม ด้วยหลัก Covid Free Setting และ Universal Prevention เพื่อให้ธุรกิจกลับมาเติบโตเข้มแข็ง” 

นายญนน์ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ต.ค. 64)

Tags: , , , , , , , ,