ส.ส.เพื่อไทย ห่วงหนี้สาธารณะพุ่งแตะ 62% แนะคว่ำพ.ร.ก.กู้เงินเปิดทางไปสู่การยุบสภา

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปราย พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม วงเงินไม่เกิน 500,000 ล้านบาทว่า ในรอบ 7 ปี รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีก่อหนี้ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 5.5 ล้านล้านบาท ซึ่งจากตัวเลขหนี้สาธารณะที่มีการคาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 58% เป็นตัวเลข ณ สิ้นเดือนก.ย. ปีนี้ แต่ยังไม่คลอบคลุมทุกมิติ เนื่องจากงบประมาณขาดดุลอีก 7 แสนล้านบาท จะเริ่มนับการขาดดุลในเดือนต.ค.นี้

ทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้ประเมินแล้วว่า ไม่เกินกลางปีหน้า หนี้สาธารณะจะไปแตะระดับ 62% เป็นอย่างต่ำ และสิ่งที่ตามมาคือต้องมีการแก้ไขกรอบวินัยการเงินเรื่องหนี้สาธารณะให้มากขึ้น

“สิ่งที่เกิดขึ้น มันชี้ถึงการไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลในการหารายได้ เป็นแต่สร้างหนี้ สร้างภาระให้กับคนรุ่นหลัง”

นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีแผนการใช้หนี้อย่างไร หรือจะปล่อยให้เป็นภาระให้กับคนรุ่นหลัง

ขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ไม่สามารถโตได้ตามเป้าที่วางไว้ ซึ่งไม่มีทางที่จะขยายตัวได้ถึง 2.5-2.5% และสถานการณ์โควิด-19 ในระลอกใหม่ ยังไม่ได้นับรวมในส่วนของความเสียหายที่ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1 แสนล้านบาทต่อระบบเศรษฐกิจไทย เมื่อรวมทุกส่วนเข้าด้วยกัน

ขณะที่ในต่างประเทศวางแผนการขยายตัวทางเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด เช่น จีนตั้งเป้าขยายตัว 8% สหรัฐอเมริกา ตั้งเป้าขยายตัว 7% อีกทั้งสถานการณ์โควิดในต่างประเทศเริ่มควบคุมได้ เศรษฐกิจขยายตัวอีกครั้ง แต่ในไทยกลับสวนทางกับประเทศอื่นๆ ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น เศรษฐกิจก็ดิ่งเหวมองไม่เห็นทิศทาง และเมื่อเศรษฐกิจโลกเติบโตอีกครั้ง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เงินเฟ้อที่ส่งผลต่อสินค้าอุปโภคบริโภคของไทยแพงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจไทยล้มเหลว คนไม่มีเงินเก็บแต่สินค้ามีราคาเพิ่มสูงขึ้น

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ในพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณด้านสาธารณสุข 4.5 หมื่นล้านบาท ถ้านำไปซื้อวัคซีนได้เกือบ 100 ล้านโดส สามารถฉีดได้ทั่วประเทศ แต่การบริหารงบประมาณที่ได้ไปล้มเหลวสุดท้ายผลกระทบตกที่ประชาชน เป็นเพราะความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล

ส่วนการที่รัฐบาลประกาศฉีดวัคซีนพร้อมกันทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ถือว่ายังล่าช้า เพราะถ้าการบริหารวัคซีนมีความหลากหลาย ปริมาณที่เพียงพอ และฉีดให้กับประชาชนตั้งแต่ต้นปี คงไม่เกิดความสูญเสียเป็นจำนวนมาก และคงไม่ต้องมีการออกพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า หากพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทไม่ผ่านความเห็นชอบก็ต้องยุบสภา ถือเป็นทางออกของวังวนแห่งความล้มเหลวในการบริหารรัฐบาลชุดปัจจุบัน ซึ่งตนเองไม่เห็นชอบกับพ.ร.ก.กู้เงินฉบับนี้ เพราะไม่เชื่อว่า ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จะแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มิ.ย. 64)

Tags: , , , , , , ,