หุ้นไทยปิดพุ่ง 10.52 จุด รับเวิลด์แบงก์เพิ่มคาด GDP โลก-ราคาน้ำมันขึ้น-กระจายวัคซีน

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,623.40 จุด เพิ่มขึ้น 10.52 จุด (+0.65%) มูลค่าการซื้อขายราว 48,366 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นรับแรงหนุนเวิลด์แบงก์ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP โลก และราคาน้ำมันทะลุ 70 เหรียญฯ/บาร์เรล ส่วนบ้านเราตอบรับทยอยฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้มากขึ้น แต่ช่วงท้ายสัปดาห์มีโอกาสชะลอลงทุนรอผล ECB และการประชุมสหรัฐฯ-อิหร่านเรื่องแผนนิวเคลียร์ ทั้งนี้ ตลาดฯยังมีลักษณะสลับกลุ่ม จากสินค้าโภคภัณฑ์ที่ขึ้นไปมากแล้วมาที่ Domestic Play อย่างโรงไฟฟ้า-แบงก์ ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งบวก-ลบระหว่างรอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งไซด์เวย์กรอบแนวรับ 1,610 แนวต้าน 1,630-1,650 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,623.40 จุด เพิ่มขึ้น 10.52 จุด (+0.65%) มูลค่าการซื้อขายราว 48,366 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับสูงสุด 1,626.89 จุด และระดับต่ำสุด 1,617.83 จุด

นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นได้แรงหนุนจากธนาคารโลกปรับคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้เพิ่มเป็นเติบโต 5.6% สูงกว่า 4.1% ที่เคยคาดการณ์ไว้เดิม และราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นด้วย โดยสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ทะลุ 70 เหรียญฯ/บาร์เรลไปแล้ว ส่วนในประเทศก็ได้ปัจจัยบวกจากการทยอยฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้มากขึ้นหลังจากดีเดย์ทั่วประเทศ 7 มิ.ย.

อย่างไรก็ดี ช่วงท้ายสัปดาห์นี้ตลาดฯอาจชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ โดยติดตามแนวทางนโบายการเงินในช่วงครึ่งปีหลัง (H2/64) ตลาดฯจับตาเรื่องการปรับลด QE ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่หลังจากที่เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นมาได้ดีแล้วในระดับหนึ่ง แต่ในมุมมอง KGI ยังมองว่าน่าจะยังคงเดิม

นอกจากนี้ จับตาการประชุมระหว่างสหรัฐและอิหร่านเรื่องแผนนิวเคลียร์ หากผลการประชุมออกมาดีสหรัฐฯก็อาจยกเลิกห้ามอิหร่านส่งออกน้ำมัน ซึ่งจะทำให้อุปทานเพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันที่ขึ้นมาถึง 70 เหรียญฯ/บาร์เรลก็อาจพักฐาน ซึ่งทาง KGI ได้ประเมินเพดานราคาน้ำมันในปีนี้ไว้ที่ 60-70 เหรียญฯ/บาร์เรล ขณะนี้ขึ้นมาชนเพดานแล้วจึงมองว่ามีโอกาสพักฐาน

ภาพรวมตลาดบ้านเราเป็นลักษณะของการสลับกลุ่มเล่น จากหุ้นที่ปรับขึ้นมามากแล้วอย่างกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ก็อาจจะสลับไปเล่นหุ้นพวก Domestic มากขึ้น อย่างหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าและกลุ่มแบงก์ เป็นต้น ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดในแถบเอเชียเหนือจะติดลบ ระหว่างเฝ้าติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ โดยทาง KGI มองว่ามีโอกาสปรับขึ้น แต่อาจทยอยลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง (H2/64)

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายสุโชติ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ในกรอบ โดยมีแนวรับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630-1,650 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 4,672.56 ล้านบาท ปิดที่ 128.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
  • HANA มูลค่าการซื้อขาย 1,730.92 ล้านบาท ปิดที่ 69.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.25 บาท
  • IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,624.07 ล้านบาท ปิดที่ 42.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
  • AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,397.08 ล้านบาท ปิดที่ 65.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
  • ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,388.05 ล้านบาท ปิดที่ 174.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มิ.ย. 64)

Tags: , , ,