หุ้นไทยปิดลบ 3.05 จุด ขายลดความเสี่ยงกังวลคุมโควิดในกทม.

สัปดาห์หน้าแกว่งสร้างฐาน

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,582.67 จุด ลดลง 3.05 จุด (-0.19%) มูลค่าการซื้อขาย 68,187.83 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้ารีบาวด์ได้ตามตลาดภูมิภาค แต่ในช่วงบ่ายปรับตัวลงมาแกว่งในแดนลบ ขายลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนการควบคุมการแพร่ระบาดโควิดในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งตลาดฯปิดทำการในวันเสาร์-อาทิตย์ก็ไม่รู้ว่าศบค.จะประกาศมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดออกมาเมื่อไร อย่างไร โดยตลาดฯรับแรงกดดันจากกลุ่มค้าปลีก-ขนส่ง นักลงทุนต่าง Wait & See รอดูสถานการณ์ก่อน ส่งวอลุ่มเทรดบาง ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราอ่อนแอกว่าตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่บวกกัน และตลาดในยุโรปก็ติดลบเล็กน้อย ส่วนดาวโจนส์ฟิวเจอร์สบวกเล็กน้อย โดยรวมตลาดฯเป็นลักษณะแกว่งไซด์เวย์ สัปดาห์หน้าตลาดฯคงจะแกว่งสร้างฐาน โดยมีแนวรับ 1,570 แนวต้าน 1,600 จุด

  • ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,582.67 จุด ลดลง 3.05 จุด (-0.19%) มูลค่าการซื้อขาย 68,187.83 ล้านบาท
  • การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,596.16 จุด และระดับต่ำสุด 1,577.63 จุด
  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 415 หลักทรัพย์ ลดลง 1,102 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 523 หลักทรัพย์

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้ารีบาวด์ได้ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวในแดนบวกกัน แต่ในช่วงบ่ายดัชนีฯปรับตัวลงมาแกว่งในแดนลบจากแรงกดดันความไม่แน่นอนการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ทำให้เกิดแรงขายลดความเสี่ยงออกมา เพราะตลาดฯจะปิดทำการในวันเสาร์-อาทิตย์ก็ไม่รู้ว่าศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) จะประกาศมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดออกมาเมื่อไร อย่างไร

วันนี้ตลาดบ้านเราวอลุ่มเทรดบาง โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มขนส่งด้วย นักลงทุนต่างก็ Wait & See รอดูสถานการณ์ก่อน ทำให้ตลาดบ้านเราอ่อนแอกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่บวกกัน และตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็ติดลบแค่เล็กน้อย ส่วนดาวโจนส์ฟิวเจอร์สก็บวกเล็กน้อย โดยรวมตลาดฯเป็นลักษณะแกว่งไซด์เวย์ ทั้งนี้ คืนนี้ให้ติดตามดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ค.ของสหรัฐฯ

แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งสร้างฐาน โดยมีแนวรับ 1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด สัปดาห์หน้าให้ติดตามการประชุมกลุ่มโอเปก และ Preview งบฯที่จะเริ่มทยอยออกมา รวมถึงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ด้วย

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 3,011.08 ล้านบาท ปิดที่ 16.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 2,249.93 ล้านบาท ปิดที่ 4.70 บาท ลดลง 0.16 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,195.88 ล้านบาท ปิดที่ 120.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,032.90 ล้านบาท ปิดที่ 23.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,707.39 ล้านบาท ปิดที่ 59.00 บาท ลดลง 0.25 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (25 มิ.ย. 64)

Tags: , ,