หุ้นไทยปิดเช้าบวก 6.25 จุด ตามตลาดตปท.หลังตัวเลขแรงงานสหรัฐดี-เริ่มฉีดวัคซีนมิ.ย.

SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,589.21 จุด เพิ่มขึ้น 6.25 จุด (+0.39%) มูลค่าการซื้อขายราว 55,778.73 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดภูมิภาคแกว่งบวกตามตลาดสหรัฐฯ หลังเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯออกมาดี ส่วนในประเทศก็มีแรงหนุนจากเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 และจะเริ่มฉีดวัคซีนได้ในเดือนมิ.ย.นี้ ถือว่าเร็วเหมือนกัน และยังมีพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทมาช่วยประคองเศรษฐกิจได้บ้าง พร้อมให้จับตาคืนนี้”ไบเดน”จะแถลงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วงเงิน 6 ล้านล้านดอลลาร์ โดยให้ติดตามรายละเอียดต่าง ๆ บ่ายนี้ตลาดฯคงจะยังแกว่งบวกได้ พร้อมให้แนวรับ 1,570 แนวต้าน 1,590-1,600 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,589.21 จุด เพิ่มขึ้น 6.25 จุด (+0.39%) มูลค่าการซื้อขายราว 55,778.73ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยทำระดับสูงสุด 1,595.45 จุด และระดับต่ำสุด 1,586.67 จุด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวกกัน ตามตลาดสหรัฐฯ หลังจากที่ตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯออกมาเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือน มี.ค.63

ขณะที่ภาพระยะสั้นปัจจัยในประเทศก็เป็นบวกจากที่เริ่มเปิดให้ประชาชนมาลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้แล้ว และจะเริ่มฉีดวัคซีนได้ในเดือนมิ.ย.นี้ ซึ่งก็ถือว่าฉีดวัคซีนได้เร็วเหมือนกัน อีกทั้งยังได้แรงหนุนจากพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งจะมาช่วยประคองเศรษฐกิจได้บ้าง

อย่างไรก็ดี คืนนี้ให้ติดตามการแถลงของประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน ที่จะเปิดเผยงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 วงเงิน 6 ล้านล้านดอลลาร์ โดยให้ติดตามรายละเอียดต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นความคาดหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯต่อไป ส่วนสัปดาห์หน้าให้ติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิต และภาคบริการทั้งของยุโรป และสหรัฐฯที่จะทยอยออกมา และติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ พร้อมให้แนวรับ 1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,590-1,600 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

  • KTC มูลค่าการซื้อขาย 4,048.74 ล้านบาท ปิดที่ 73.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,273.86 ล้านบาท ปิดที่ 121.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
  • CBG มูลค่าการซื้อขาย 2,110.88 ล้านบาท ปิดที่ 133.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท
  • RCL มูลค่าการซื้อขาย 1,535.19 ล้านบาท ปิดที่ 49.75 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
  • PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,164.48 ล้านบาท ปิดที่ 39.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 พ.ค. 64)

Tags: , ,