เงินบาทเปิด 33.17 อ่อนค่าสอดคล้องภูมิภาค หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯหนุนดอลล์แข็ง

เช้านี้เงินบาทอ่อนค่า สอดคล้องกับภูมิภาค จากดอลลาร์กลับมาฟื้นตัว หลังตัวเลขยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จาก Conference Board ของสหรัฐฯ ออกมาดีเกินคาด โดยวันนี้ปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม คือ ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนก.ย. ของไทย

“บาทอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ จากเมื่อคืนนี้ที่ดอลลาร์ฟื้นตัว หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีเกินคาด” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.10 – 33.30 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (26 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.33744% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.35111%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.08 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 114.00 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1600 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1617 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.119 บาท/ดอลลาร์
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการโมเดิร์น เทรดไตรมาส 3 ปี 64 ปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งในรอบ 2 ไตรมาส ดัชนีรวมอยู่ที่ 47.9 ดัชนีในปัจจุบันอยู่ที่ 47.1 และดัชนีในอนาคตอยู่ที่ 48.7 เพราะปลายไตรมาส 3 รัฐทยอยคลายล็อกมาตรการต่าง ๆ และผู้ประกอบการมองว่า ธุรกิจค้าปลีกน่าจะผ่านจุดตำสุดแล้ว เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ ทั้งโครงการคนละครึ่งเฟส 3, ยิ่งใช้ยิ่งได้, เรารักกัน, ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์, สมุย พลัส โมเดล รวมถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ดีขึ้นต่อเนื่อง และการผ่อนคลายมาตรการควบคุม ที่ผ่อนคลายให้ธุรกิจโมเดิร์นเทรด เปิดได้ตามเวลาที่กำหนด
  • นายกฯ กล่าวถ้อยแถลง ในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ย้ำอาเซียนต้องเป็นหนึ่งเดียว พร้อมพิจารณาแนวทางใหม่ในปฏิสัมพันธ์สหรัฐ-จีน เพื่อรักษาสันติภาพเสถียรภาพในภูมิภาค
  • ศปก.ศบค.สั่งเตรียมพร้อมรับมือหลังพบการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ “เดลตาพลัส” ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขยืนยันสายพันธุ์ที่เจอในไทย ไม่ใช่สายพันธุ์เดียวกับที่ระบาดในอังกฤษ พร้อมสั่งเฝ้าระวังอัลฟาพลัสจากประเทศเพื่อนบ้าน เปิดแผน 5 ขั้น รองรับนโยบาย “เปิดประเทศใน 120 วัน”
  • โฆษกรัฐบาลยัน “บิ๊กตู่” ไม่ก้าวก่าย ปมล้างไพ่ พปชร. แจงปิดห้องคุย 6 รมต.หลังครม.ไม่เกี่ยวการเมืองใน พปชร.” บิ๊กป้อม” รับคุย “บิ๊กตู่” รื้อโครงสร้างพปชร. กำลังคิดอยู่ ปัดตอบปรับ “ธรรมนัส” พ้นเลขาฯ ช่วงเย็น แจ้งนัด กก.บห.ประชุมด่วน 28 ตุลาคมนี้
  • Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 113.8 ในเดือนต.ค. จากระดับ 109.8 ในเดือนก.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 108.3 โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 14% สู่ระดับ 800,000 ยูนิตในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 760,000 ยูนิต ส่วนราคาเฉลี่ยของบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 18.7% สู่ระดับ 408,800 ดอลลาร์ในเดือนก.ย.
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลายแห่งในสัปดาห์นี้ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ เช่น ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3
  • นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางต่าง ๆ โดยธนาคารกลางแคนาดาจะจัดการประชุมในวันนี้ ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะจัดการประชุมในวันพฤหัสบดี
    ส่วนในสัปดาห์หน้า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะจัดการประชุมในวันอังคาร, ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จัดการประชุมในวันอังคารและพุธ ส่วนธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางนอร์เวย์จัดการประชุมในวันพฤหัสบดี
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 1,800 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (26 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวัน นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2564 (ประมาณการเบื้องต้น), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ย., รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนก.ย., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ต.ค. 64)

Tags: , ,