แนวโน้มหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นตาม Sentiment บวกหุ้นโลกช่วงรอผลประชุมประจำปีเฟด

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นตาม Sentiment บวกจากหุ้นโลก หลังตลาดสหรัฐฯได้รับแรงซื้อกลับจากหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี ทำให้ตลาดภูมิภาคเช้านี้ต่างบวกกันด้วย แต่มองนักลงทุนยังลงทุนอย่างระวังเนื่องจากโควิดยังถ่วง ส่วนบ้านเราแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ดูดีขึ้น โดยจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้มี 17,000 ราย ต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือน ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในประเทศน่าจะกลับมา แต่การปรับขึ้นของดัชนีฯอาจไม่ไกล เพราะต่างรอดูการประชุมประจำปีของเฟดที่แจ็คสันโฮล ในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,545 แนวต้าน 1,560-1,565 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นได้ จาก Sentiment หุ้นโลกเป็นบวกจากแรงซื้อกลับหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็เคลื่อนไหวในแดนบวกกันด้วย แต่มองว่านักลงทุนยังคงระวังการลงทุนอยู่เนื่องจากยังไม่ไว้วางใจการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

ส่วนตลาดบ้านเราสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ดูดีขึ้น จากจำนวนผู้ติดเชื้อวันนี้มีแค่ 17,000 ราย ซึ่งต่ำกสุดในรอบเกือบ 2 เดือน ทำให้หุ้นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในประเทศน่าจะกลับมา แต่การปรับตัวขึ้นของดัชนีฯก็คงจะไปได้ไม่ไกล เนื่องจากต่างก็รอดูการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่เมืองแจ็คสันโฮล ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ โดยต่างรอดูประธานเฟดจะส่งสัญญาณอะไรออกมาบ้าง

นอกจากนี้ สัปดาห์นี้ยังต้องติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต และภาคบริการของทั่วโลกที่จะทยอยออกมา และการแถลงในงานไทยแลนด์โฟกัส ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25-27 ส.ค.นี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้าใจไทยมากขึ้น อีกทั้งสัปดาห์นี้จะมีหุ้นที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อรับปันผลอยู่ 105 บริษัท คาดว่าจะมีผลต่อดัชนีฯ 3.5 จุด

พร้อมให้แนวรับ 1,545 จุด ส่วนแนวต้าน 1,560-1,565 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (20 ส.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,120.08 จุด เพิ่มขึ้น 225.96 จุด (+0.65%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,441.67 จุด เพิ่มขึ้น 35.87 จุด (+0.81%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,714.66 จุด เพิ่มขึ้น 172.88 จุด (+1.19%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 9.47 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 179.85 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 319.73 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 ส.ค.) 1,553.18 จุด เพิ่มขึ้น 8.90 จุด (+0.58%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,622.13 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ส.ค.64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (20 ส.ค.) ปิด 62.32 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.37 ดอลลาร์ หรือ 2.2%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 ส.ค.) อยู่ที่ 2.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.33 จับตาตัวเลขส่งออกไทย-โควิดในปท. คาดกรอบวันนี้ 33.25-33.40
  • สมาคมธนาคารไทย ส่งหนังสือด่วนถึงแบงก์ชาติ ค้านมาตรการแฮร์คัทลูกหนี้พิษโควิด หวั่นกระทบฐานะการเงินและสร้างวัฒนธรรมจงใจเบี้ยวหนี้ ยื่นเงื่อนไขสุดเข้ม “ขึ้นแบล็คลิสต์” ลูกหนี้ที่เข้าโครงการ จับตาหนังสือเวียนส่อบังคับปรับหนี้ วอนสื่อสารประชาชนชัดเจน วงในเผยรัฐบาลกดดันธปท.หนัก
  • กรมท่าอากาศยานอัปเดตโครงการพัฒนาสนามบินภูธร 5 แห่ง กระบี่ ตรัง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ขอนแก่น เร่งผู้รับเหมาทุกโครง การ คาดทยอยเสร็จ ต.ค.นี้ พร้อมให้บริการหลังโควิด-19 คลี่คลาย
  • นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้เห็นชอบข้อเสนอการจัดตั้งกองทุน FTA ของคณะทำงานพิจารณาแนวทางการพัฒนากองทุนช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า ที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน และได้ส่งเรื่องถึงรมว.คลัง แล้ว เพื่อขอให้นำเรื่องการขอจัดตั้งกองทุน FTA ของกระทรวงพาณิชย์ เข้าสู่การพิจารณากลั่นกรองของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนของกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาเสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป โดยประเดิม ขอเงินกองทุน 5,000 ล้าน จากรัฐบาล พร้อมเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ได้ประโยชน์จากการเปิดเสรี ใช้เป็นเงินหมุนเวียน
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยว่ากรณีสหรัฐลดอันดับการค้ามนุษย์ไทยมาอยู่ที่เทียร์ 2 และต้องจับตามองซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของการจัดอันดับแม้ว่าจะไม่กระทบต่อการส่งออกของไทยแต่ถ้าหากไม่เร่งแก้ไขในประเด็นที่ถูกเพ่งเล็งภายใน 2 ปีมีความเสี่ยงที่ไทยจะถูกลดไปอยู่ในลำดับต่ำสุดที่เทียร์ 3 ซึ่งนับเป็นความเสี่ยงต่อธุรกิจไทย ทั้งเรื่องภาพลักษณ์สินค้าไทยถูกต่างชาติเพ่งเล็งมากขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมาไทยยังไม่เคยถูกกีดกันทางการค้าจากนโยบายนี้ โดยในอดีตปี 57 ไทยเคยตกอยู่ในสถานะเทียร์ 3 โดยติดอยู่เป็นเวลา 2 ปีเพราะแรงงานผิดกฎหมายในอุตสาหกรรมประมงแต่ไทยไม่ได้ถูกสหรัฐกีดกันการค้าแต่อย่างใด

หุ้นเด่นวันนี้

  • CRC (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 34.50 บาท ลุ้นมาตรการผ่อนคลายการล็อคดาวน์ เมื่อผู้ติดเชื้อใหม่เริ่มลดลง ขณะที่การนำเข้าวัคซีนเพิ่มขึ้นสถานการณ์เริ่มควบคุมได้ อีกทั้งกำลังจะผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 3 ซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกใหม่ เตรียมเปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง ที่เวียดนามใน Q3/64 ด้าน Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 64-65 ที่ 991 ลบ. และ 5.6 พันลบ. เติบโต +2042%YoY, +472%YoY ตามลำดับ
  • KBANK (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้า 161 บาท คาดได้ Sentiment บวกและได้ประโยชน์มากสุดจากข่าวแบงก์ชาติออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ SMEs และรายย่อยเพิ่มขึ้นเนื่องจาก KBANK มีสัดส่วนสินเชื่อจากกลุ่มลูกค้า SMEs สูงสุดของกลุ่ม
  • MEGA (กสิกรไทย) เป้า 52.00 บาท ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2564-66 ขึ้น 11-16% จากความต้องการแข็งแกร่งจากแบรนด์ผลิตภัณฑ์และการเติบโตที่มั่นคงในธุรกิจจัดจำหน่าย ขณะที่ความกังวลด้านสุขภาพจะช่วยกระตุ้นยอดขายของ MEGA ท่ามกลางความไม่สงบในเมียนมาและสถาณการณ์โควิด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ส.ค. 64)

Tags: , , , ,