แนวโน้มหุ้นไทยเช้านี้แกว่งลงรับปัจจัยลบต่างประเทศกังวลน้ำมันดันเงินเฟ้อ

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสแกว่งลงตามปัจจัยกดดันจากต่างประเทศ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเร่งตัวขึ้นมาที่ 1.66% กดดันบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงของตลาดภูมิภาคเอเชีย ประกอบกับ มีแรงกดดันจากโอกาสการปรับลดมาตราการ QE ของเฟด แนะนำหุ้นที่มีปัจจัยสนับสนุนบวกเฉพาะตัว KCE TU TIDLOR ให้กรอบแนวรับ 1,625 และ 1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640 จุด

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสินกล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวในทิศทางขาลง โดยยังได้รับปัจจัยกดดันจากต่างประเทศเรื่องการเร่งตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐเร่งตัวขึ้นมาที่ 1.66% เช้านี้ กดดันบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงของตลาดภูมิภาคเอเชีย หลังจากกลับมากังวลอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับยังมีแรงกดดันจากโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มลดมาตรการ QE

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ แนะนำจัดพอร์ตลงทุนในหุ้น 50% เน้นเลือกรายตัว โดยเฉพาะหุ้นที่ได้รับปัจจัยสนับสนุนเฉพาะตัวเช่น กลุ่มส่งออก คือ KCE และ TU และกลุ่มลิสซิ่ง อย่าง TIDLOR จากราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวหลังปรับฐานมาแล้ว และยังต้องติดตามการรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/64 ของกลุ่มธนาคารในวันนี้ อย่าง TTB

พร้อมให้กรอบแนวรับ 1,625 และ 1,610 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,640 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (19 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,457.31 จุด เพิ่มขึ้น 198.70 จุด หรือ +0.56% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,519.63 จุด เพิ่มขึ้น 33.17 จุด หรือ +0.74% และ ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,129.09 จุด เพิ่มขึ้น 107.28 จุด หรือ +0.71%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 29,385.95 จุด เพิ่มขึ้น 170.43 จุด หรือ +0.58%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 26,074.20 จุด เพิ่มขึ้น 286.99 จุด หรือ +1.11% ส่วนดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,583.24 จุด ลดลง 9.91 จุด หรือ -0.28%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 ต.ค.) 1,630.39 จุด ลดลง 13.53 จุด (-0.82%)

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,727.59 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ต.ค.64

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (19 ต.ค.) ปิดที่ 82.96 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ หรือ 0.6% นับตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. 2557 และในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา พุ่งขึ้น 3.7%

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 ต.ค.) อยู่ที่ 8.11 ดอลลาร์/บาร์เรล

– เงินบาทเปิดตลาดวันนี้ที่ 33.45/47 อ่อนค่าตามภูมิภาค

– ครม.อนุมัติเงินกู้โควิด 92,027 ล้านบาท เติมเงินคนละครึ่งเฟส 3 เพิ่มให้อีกคนละ 1,500 บาท เพิ่มเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีก 300 บาท 2 เดือน เพิ่มยิ่งใช้ยิ่งได้จากคนละ 60,000 บาท 80,000 บาท รับ e-Voucher คืน จากเดิม 7,000 บาท เป็น 10,000 บาท และจ่ายเงินให้เอสเอ็มอีรักษาการจ้างงานลูกจ้าง 3,000 บาท 3 เดือน รวม 4 ล้านคน และจ้างงานใหม่อีก 201,730 คน เริ่มลงทะเบียน 20 ต.ค.นี้

– ครม.รับทราบแนวทางลดผลกระทบโควิด-19 รถไฟเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน หลัง “เอรา วัน” คู่สัญญามีปัญหาชำระค่าสิทธิบริหาร แอร์พอร์ต เรลลิงก์ 1 หมื่นล้าน จากปัญหาภาวะเศรษฐกิจช่วงโควิด-19 “วิษณุ” เผย “มหาดไทย” ถอนวาระต่อสัมปทานบีทีเอสออกจาก ครม. หลัง “คมนาคม” ทักท้วงต้องดำเนินการให้ครบถ้วนตามกฎหมาย และมติ ครม

– ธปท.-สมาคมธนาคารไทย ออก 4 มาตรการเข้ม ป้องมิจฉาชีพนำข้อมูลบัตรเครดิต-เดบิต ชำระสินค้าออนไลน์ หลังพบธุรกรรมผิดปกติ 1.07 หมื่นใบ เงินถูกดูดออกจากบัญชีกว่า 130 ล้านบาท แบงก์เตรียมคืนเงินภายใน 5 วัน ด้านตำรวจสอบเส้นทางเงิน ประสานหน่วยงานสหรัฐหาต้นตอ

– “กองกำลังสุรสีห์” เลาะชายแดนตะวันตก 846 กม.รับเปิดประเทศ ตรวจจุดเสี่ยง “โควิด” นำเข้า หลังพบแรงงานต่างด้าวจ่อประชิด 4 จังหวัด “กาญจนบุรี-ราชบุรี-เพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์” มีช่องทาง 95 เส้นทาง 4 จุดผ่านแดน พบออเดอร์เพิ่ม ค่าหัวพุ่ง “สาธารณสุข เปิด รพ.สนามเลิดสินรองรับผู้ป่วย “ภาคใต้” ยังน่าห่วง 5 จ. ติดอันดับ ผู้ป่วยใหม่สูงสุดรายวัน

– “คมนาคม” เผย ครม.ถอดวาระการประชุมต่อสัญญาสัมปทานสายสีเขียว สั่งมหาดไทยศึกษาให้ชัดเจน “วิษณุ” แจงรถไฟฟ้าสะดุดเพราะข้อทักท้วงคมนาคม ฟาก กทม.เตรียมยื่นหนังสือชงรัฐของบ 1 หมื่นล้าน ใช้หนี้บีทีเอส แก้ปัญหาต่อสัญญาสัมปทานสายสีเขียว ขณะที่บีทีเอสเล็งรวบเอกสาร-หลักฐาน ฟ้องกทม.กรุงเทพธนาคม ค้างหนี้ 2 หมื่นล้าน

– “ศบค.” เห็นชอบ มาตรการผ่อนปรนการจัดงานไมซ์ “ทีเส็บ” เร่งฟื้นฟูกำหนดแนวปฏิบัติร่วมกับสธ. เตรียมรองรับงานไมซ์จ่อคิวรอจัดกว่า 1,000 กลุ่ม ในกรุงเทพฯและภูมิภาคทั่วประเทศ

– จับตา บริษัทประกันภัย เข้าเกณฑ์ขอผ่อนผันเกณฑ์ส่งเงินกองทุนตามความเสี่ยง (CAR) หลังยอดเคลมประกันโควิดพุ่ง 2 หมื่นล้าน แนะเปิดช่องให้บริษัท-ลูกค้าแปลงกรมธรรม์โดยสมัครใจ ช่วยลดโอกาสธุรกิจประกัน เดินตามรอย เอเชียประกันภัย 1950

หุ้นเด่นวันนี้

– FORTH (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 19.00 บาท คาดปี 65 รายได้เติบโตก้าวกระโดด บริษัทใช้โมเดลเดียวกับตอนขยายตู้บุญเติม หลังตู้ “เต่าบิน” เริ่มได้รับความนิยม เตรียมเจรจากับ Agent เพื่อขยายตู้ใน Scale Big lot เป้าหมายปี 22 ที่ 1 หมื่น ตู้ แม้จะดูท้าทายแต่บริษัทเคยทำได้มาก่อนแล้ว รอประมูลงานภาครัฐ ได้แก่ กำไลข้อเท้า EM, การเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้าเป็น Smart มิเตอร์ Outlook รายได้สดใสจาก Backlog ที่แข็งแกร่ง และ Pipeline งานรัฐที่หนาแน่น KTBST ประเมินกำไรปี 64-65 ที่ 737 ลบ. และ 969 ลบ. +63%YoY, +32%YoY ตามลำดับ

– FSMART “ซื้อ” เป้า 13.50 บาท ต่อยอดตู้บุญเติมซึ่งเป็นฐานของธุรกิจ สร้างรายได้ราว 2.7 พันลบ.ต่อปี ด้วย New S-Curve คือตู้เต่าบิน ซึ่งไม่มีคู่แข๋งในตลาด บริษัทตั้งเป้าขยายตู้ TAOBIN 20,000 ตู้ ภายในปี 66 โดยตั้งเป้า 1,000 ตู้ในปี 2021 คาดกำไรปี 64 ที่ 430 ลบ. -7.4% Y-Y แต่คาดกลับมาโตสูงเฉลี่ย 43% CAGR ในช่วงปี 65-68 จากการกลับมาของตู้บุญเติมและเสริมทัพด้วยตู้เต่าบิน

– BCH (เอเชีย เวลท์) “ซื้อ”เป้า 29.00 บาท แนวโน้มกำไรสุทธิ Q3/64 ทำสถิติ New High แนวโน้มกำไรสุทธิ 3Q64 ทำสถิติ New High อีกครั้ง รายได้เติบโตต่อเนื่อง หนุนจากรายได้เกี่ยวกับ COVID-19 เป็นหลัก คาดอัตรากำไร Q3/64 สูงขึ้น YoY และ QoQ ภาพรวม Q4/64 อ่อนตัว QoQ แต่ยังมีวัคซีนทางเลือกช่วยหนุน 4 ปัจจัยหนุน เพิ่มความน่าสนใจในการลงทุน (1) การกลับเข้ามาใช้บริการของผู้ป่วยปกติ (2) รายได้จากโรงพยาบาลใหม่ 3 แห่ง (3) การกลับเข้ามาใช้บริการของผู้ป่วยชาวต่างชาติ และ (4) จำนวนผู้ประกันตน ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ต.ค. 64)

Tags: , ,