แนวโน้มหุ้นไทยเช้ารีบาวด์จำกัดตามตลาดตปท.หลังร่วงแรงแต่โควิดยังหนักกดดัน

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้รีบาวด์กรอบจำกัดตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดภูมิภาคเช้านี้ฟื้นตามตลาดสหรัฐฯ-ยุโรปหลังร่วงไปมากจากกังวลโควิดระบาดหนัก แต่ทางแถบเอเชียดูแย่กว่าสหรัฐฯ-ยุโรป ขณะที่บ้านเรายังฉีดวัคซีนได้น้อยการขึ้นของตลาดฯจึงจำกัดมองเป็นรีบาวด์เพื่อลงต่อ แต่งบฯแบงก์ออกมาดี-เซ็นสัญญาซื้อวัคซีนไฟเซอร์อาจช่วยหนุนบ้าง แต่จำนวนผู้ติดเชื้อยังทะลุหมื่นรายอีกวัน ให้แนวรับ 1,530-1,515 แนวต้าน 1,550 จุด

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ในกรอบจำกัด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างฟื้นตัวขึ้น ตามตลาดสหรัฐฯ และยุโรปหลังจากปรับตัวลงไปมาก จากความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หนัก แต่ทางฝั่งสหรัฐและยุโรปฉีดวัคซีนกันไปมากแล้ว ทำให้แถบเอเชียดูแย่กว่า ส่วนบ้านเราก็ยังฉีดวัคซีนได้น้อย ดังนั้นการปรับตัวขึ้นของตลาดบ้านอาจจำกัดคงเป็นลักษณะรีบาวด์เพื่อลงต่อ

อย่างไรก็ดี ผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ประกาศออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดีน่าจะช่วยพยุงตลาดฯได้บ้าง และไทยเซ็นสัญญาซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดสทำให้อุ่นใจได้มากขึ้น แต่มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มขึ้นดูเหมือนจะไม่ค่อยเห็นผลในทางที่ดีขึ้นเท่าใดนัก เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันยังพุ่งสูงกว่าหมื่นราย

แนะติดตามตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยคาดว่าจะเกินดุล และการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ ซึ่งวันนี้จะมี KBANK, SCB, KTB ส่วนนอกประเทศยังต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เช่นเดียวกัน และการประกาศผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดสำคัญ ๆ ด้วย รวมถึงจับตาความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,530-1,515 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (20 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,511.99 จุด เพิ่มขึ้น 549.95 จุด ( +1.62%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,323.06 จุด เพิ่มขึ้น 64.57 จุด (+1.52%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,498.88 จุด เพิ่มขึ้น 223.89 จุด (+1.57%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 6.26 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 358.9 จุด และดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 79.97 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (20 ก.ค.) 1,538.86 จุด ลดลง 17.15 จุด (-1.10%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 885.64 ล้านบาท เมื่อวันที่ 20 ก.ค.64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (20 ก.ค.) ปิด 67.42 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ หรือ 1.5%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 ก.ค.) อยู่ที่ 2.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.83/84 ตลาดจับตาผลประชุม ECB คาดกรอบวันนี้ 32.75-32.90
  • นายกฯนัดถก 40 ซีอีโอหอการค้าวันนี้ เอกชนยื่น 5 ข้อเสนอ “หาวัคซีน ให้ได้มากที่สุด-ตรวจเชื้อเชิงรุก-เพิ่มเยียวยา-เร่งฟื้นศก.” “อนุทิน” เผยกลาง ครม. กทม.วิกฤติเตียง แนะเคลื่อนย้ายกลับภูมิลำเนา สธ.ย้ำไฟเซอร์ 20 ล้านโดส ส่งไตรมาส 4 กระจายตามเป้าลดการระบาด ส่วนรับบริจาค 1.5 ล้านโดส เริ่มฉีด ส.ค.บุคลากรด่านหน้า เผยปี 64 ซื้อวัคซีน 100 ล้านโดส 3 ชนิด ด้านแพทย์รพ.รามาฯจี้เร่งหาวัคซีน mRNA
  • พิษโควิด-19 กระทบทุกตลาดอสังหาฯ ยกเว้นอุตฯคลังสินค้า-โลจิสติกส์ราคาค่าเช่าพุ่งรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซบูม เผยดีลซื้อขายโครงการลดฮวบ 40% “โจนส์ แลง ลาซาลล์ฯ” หวังรัฐบาลเร่งรัดฉีดวัคซีน และควบคุมโรคได้รวดเร็ว พร้อมเปิดประเทศ หนุนเศรษฐกิจต้นปี 65 พลิกฟื้น ปลุกตลาดซื้อขายโครงการกลับคึกคัก ตั้งสมมติฐานเปิดต่างชาติซื้อห้องชุดเกิน 49% ได้สิทธิ์ซื้อบ้านเดี่ยว คนซื้อบ้านมั่นใจในรายได้ อสังหาฯ ใช้เวลาพลิกฟื้น 18-24 เดือน ด้าน “ดีดี พร็อพเพอร์ตี้” เผยผลสำรวจ ชี้โควิด ฉุดผู้บริโภคลังเลซื้อที่อยู่อาศัยนานขึ้น บางเคส 3-5 ปี
  • นายยาซูยูกิ ซาวาดะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เปิดเผยว่า เอดีบีได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 64 อยู่ที่ 2% จากที่คาดการณ์ไว้ 3% เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากโควิด-19 ระลอก 3 เป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก ส่งผลให้การบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนลดลง โดยเฉพาะเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ต่างๆ ขณะที่การจำกัดการท่องเที่ยวทำให้นักท่องเที่ยวลดลงต่อเนื่อง ส่วนเศรษฐกิจไทยของปี 65 คาดว่าขยายตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 4.9% จากที่เคยคาดไว้ที่ 4.5%
  • วิจัยกรุงศรีอั้นไม่ไหวปรับลดคาดการณ์จีดีพีปีนี้เหลือ 1.2% จากสถานการณ์การระบาดโควิดที่ลามหนัก การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มเติบโตชะลอลงเหลือ 1.1% คาดการท่องเที่ยวมีต่างชาติเข้ามาราวๆ 2 แสนคน แต่ยังพอมีแรงพยุงจากการส่งออกที่เติบโตแข็งแกร่ง

หุ้นเด่นวันนี้

  • ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ แกรนด์ รอยัล ออคิด โฮสพีทาลิตี้ ที่มีข้อตกลงในการซื้อคืน เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯวันแรก ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ใช้ชื่อย่อ “GROREIT” หลังเสนอขายหน่วยทรัสต์ระหว่างวันที่ 28 มิ.ย.-9 ก.ค.564 รวมจำนวน 315 ล้านหน่วย ในราคาหน่วยละ 10 บาท รวมมูลค่าเสนอขาย 3,150 ล้านบาท
  • BROOK-W6 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป(BROOK)) เทรดวันแรก จำนวน2,731,152,084 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.65 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (13 กรกฏาคม 2564 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ก.ย. 2564 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 12 ก.ค. 2567
  • BROOK-W7 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (BROOK)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 682,787,809 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.30 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 5 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (13 กรกฏาคม 2564) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ก.ย. 2564 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 12 ก.ค. 2569
  • CKP (เคทีบีเอสที) เป้าเชิงกลยุทธ์ 6.20 บาท แนวโน้มกำไร Q2-3/64 มีโอกาสเติบโต YoY โดดเด่น และทำ New High ใน Q3/64 จากปริมาณน้ำในเขื่อนปีนี้ที่มากกว่าปีก่อน ทั้งนี้ โครงการขนาดใหญ่อีกหนึ่ง 1 โครงการคือโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง 1460 MW (613.2 Equity MV) เป็น Upside ต่อราคาเป้าหมายราว 1.70 บาท พร้อมประเมินกำไรปี 2564-2565 ที่ 1.8 พัน ลบ. และ 2.5 พัน ลบ. +355%YoY, +39%YoY ตามลำดับ
  • SINGER (กรุงศรี) “ซื้อ”เป้า IAA Consensus 50) อีกหนึ่งผู้ประกอบการที่ผลกำไรเติบโตชนะโควิด-19 และ ภาวะล็อกดาวน์ และคาดว่ากำไรสุทธิใน Q2/64 จะยังพุ่งทำ All time high จากแรงหนุนของยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วง High season ขณะที่สินเชื่อ C4C เดินหน้าเติบโตตามยอดสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ค. 64)

Tags: , , , ,