โบรกฯแนะ ซื้อ EKH เล็งกำไรปีนี้โตจากรักษาผู้ป่วยโควิด-เปิดปท.-จีนหนุนลูกคนที่3

โบรกเกอร์ต่างเชียร์ “ซื้อ” หุ้น บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) เล็งกำไรปีนี้เติบโตดี จากการให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันผู้ติดเชื้อโควิด-19 คิดเป็นประมาณ 70% ของคนไข้ IPD รวมไปถึงสถานการณ์ช่วงครึ่งปีหลังที่จะทยอยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในช่วงไตรมาส 4/64 เป็นต้นไป โดยจะทำให้จำนวนลูกค้า IVF (ศูนย์ผู้มีบุตรยาก) เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ จีนปรับเปลี่ยนนโยบายสนับสนุนให้คู่สมรสมีบุตรคนที่ 3 ของจีนจากก่อนหน้านี้ที่กำหนดให้คู่สมรสมีบุตรได้ไม่เกิน 2 คน เป็นปัจจัยบวกต่อทาง EKH ช่วยหนุนให้มีผู้ใช้บริการ IVF มากขึ้น และสามารถทำให้รายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าที่ 20% ได้

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตามองการเปิดประเทศอย่างใกล้ชิดว่าจะสามารถดำเนินการตามแผนได้หรือไม่ และยังคงต้องติดตามยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลังจากการเปิดประเทศอีกด้วย

หุ้น EKH ปิดเช้าที่ 6.75 บาท ลดลง 0.05 บาท (-0.74%) ขณะที่ดัชนี SET ปิดเช้าร่วง 12.15 จุด

โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
 ฟินันเซีย ไซรัส ซื้อ 8.40
เคทีบีเอสที ซื้อ 7.70
ฟิลลิป ซื้อ 8.10
แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซื้อ 8.10
ยูโอบี เคย์เฮียน ซื้อ 8.00
อาร์เอชบี ซื้อ 8.00

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ทาง EKH จะสามารถทำรายได้ปีนี้เติบโตตามเป้าที่ 20% ได้ เนื่องจากธุรกิจโรงพยาบาลเป็นธุรกิจที่เติบโตได้ดีอยู่แล้ว มีเพียงปีก่อนที่ลูกค้าต่างประเทศต้องขาดช่วงไปเพราะการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้รายได้ในปีที่แล้วค่อนข้างต่ำ ประกอบกับกำไรในไตรมาส 2/64 จะโดดเด่น จากการให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับการแพร่ระบาดโควิด-19

รวมไปถึงสถานการณ์ช่วงครึ่งปีหลังที่จะทยอยเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวได้ ทำให้ลูกค้า IVF จากประเทศจีนน่าจะเริ่มกลับมาในช่วงไตรมาส 4/64 เป็นต้นไป ซึ่งจะมาหนุนรายได้อีกช่องทางหนึ่ง และยังมีนโยบายของประเทศจีนที่ปรับให้มีบุตร 3 คน เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะหนุนให้ผู้ใช้บริการ IVF จะมีดีมานด์สูงขึ้น ส่งผลบวกกับทาง EKH เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตามองเรื่องการเปิดประเทศช่วงครึ่งปีหลังอย่างใกล้ชิดว่าจะสามารถดำเนินการตามแผนได้หรือไม่ และยังคงต้องติดตามยอดผู้ติดเชื้อและเชื้อที่กลายพันธุ์ภายหลังจากการเปิดประเทศอีกด้วย

ด้านบล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ประเมินกำไรสุทธิปี 64 ของ EKH ที่ 115 ล้านบาท โต 60%YoY จากการมี upside จากการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 และคาดแนวโน้มช่วงครึ่งปีหลังยังมีปัจจัยหนุนในเรื่องการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศในวันที่ 1 ก.ค.64 ซึ่งจะมาช่วยหนุนธุรกิจ IVF และการเติบโตของกำไร

ประกอบกับที่ประชุมคณะกรรมการกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิลูต์จีน (โปลิตบูโร) เปิดเผยว่า จีนจะสนับสนุนให้คู่สมรสมีบุตรคนที่ 3 ซึ่งถือเป็นการปรับนโยบายครั้งใหญ่ จากก่อนหน้านี้ที่กำหนดให้คู่สมรสมีบุตรได้ไม่เกิน 2 คน หลังจากที่อัตราการเกิดชะลอตัวลงอย่างมาก ในขณะที่จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาว

โดยนโยบายดังกล่าวจะเป็นปัจจัยบวกต่อทาง EKH เป็นการปรับเปลี่ยนนโยบายวางแผนครอบครัวให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะหากมีการลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการตั้งครรภ์และคลอดบุตร, การเลี้ยงดูบุตร จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนให้มีผู้ใช้บริการ IVF มากขึ้น จากปีก่อนที่ผู้ใช้บริการลดลงอยู่ที่ 45 ราย โดยปีนี้คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการที่ทยอยเข้ามาในช่วงไตรมาส 4/64 ที่ 70 ราย และจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญในปี 65 เป็นต้นไป

ส่วนบล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรของ EKH ขึ้นเป็น 166 ล้านบาท โต 129.8%YoY หลังแนวโน้มกำไรดีกว่าคาด จากรายได้การรักษาผู้ติดเชื้อ โควิด-19 เพิ่มขึ้น ซึ่งคิดเป็นประมาณ 70% ของคนไข้ IPD ปัจจุบัน โดยจากจำนวนเตียงให้บริการ 150-160 เตียง, U-Rate เกิน 100% หนุนรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ โควิด-19 เพิ่มขึ้น และอัตราทำกำไรดีขึ้นจาก Rev/Bill เพิ่มขึ้น ทำให้กำไรในไตรมาส 2/64 จะโต QoQ และฟื้นตัว YoY ที่ขาดทุน 0.2 ล้านบาท

ด้านลูกค้า IVF จากประเทศจีนคาดว่าจะกลับเข้าใช้บริการตั้งแต่ไตรมาส 4/64 เป็นต้นไป เบื้องต้นประเมินไว้ที่ 90-120 เคสหลังจากเปิดประเทศ (10 จังหวัดไม่ต้องกักตัว เริ่ม 1 ต.ค.นี้) และแรงหนุนจากรัฐบาลจีนที่ปรับเปลี่ยนนโยบายให้คู่สมรสมีบุตรคนที่ 3 ได้จากก่อนหน้ากำหนดไม่เกิน 2 คน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มิ.ย. 64)

Tags: , , , , , , , , , ,