BAY ชี้กนง.นัดถัดไปมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ย หลังมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ย

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กล่าวว่า กรณีที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติไม่เป็นเอกฉันท์ ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 10 ติดต่อกัน โดยมีคณะกรรมการ 2 ราย มีมติให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเหลือ 0.25% และอีกหนึ่งรายลาประชุม

โดย กนง.ประเมินว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรงเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงด้านต่ำต่อการเติบโต ธปท.ได้ปรับลดการเติบโตของจีดีพีปี 2564 และ 2565 ให้อยู่ที่ 0.7% และ 3.7% ตามลำดับ จากเดิมประมาณการจีดีพีอยู่ที่ 1.8% และ 3.9% สืบเนื่องจากตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจที่แสดงให้เห็นว่าสภาวะเศรษฐกิจไตรมาส 2 นั้นถดถอยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงและยืดเยื้อกว่าเดิม ความล่าช้าของการเปิดประเทศและความเชื่อมั่นที่ลดลงของนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ภาคแรงงานเองก็เปราะบางยิ่งขึ้นในขณะที่การใช้จ่ายของภาครัฐที่เพิ่มสูงขึ้นและการส่งออกที่เติบโตยังคงเป็นแรงสนับสนุนที่ดีต่อเศรษฐกิจไทย ขณะเดียวกัน การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในโรงงานและการขาดแคลนวัตถุดิบ ล้วนเป็นอุปสรรคในระยะสั้นต่อการผลิต

สืบเนื่องจากแถลงการณ์ของ กนง.เงินบาทยังคงซื้อขายในอัตราทรงตัวที่ราว 33.80 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทนั้นอ่อนค่าลงกว่า 10% ในปีนี้ และแตะระดับอ่อนค่าสุดในระยะเวลา 16 เดือน โดยเงินบาทเป็นเงินสกุลที่อ่อนค่าที่สุดในภูมิภาค การอ่อนค่าของเงินบาทอย่างรุนแรงสะท้อนผลของการพึ่งพิงอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดย กนง.ตั้งข้อสังเกตว่าเงินบาทที่อ่อนค่านั้นเป็นผลมาจากปัจจัยภายในประเทศเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ กนง.มีกำหนดการประชุมรอบถัดไปในวันที่ 29 ก.ย.64 มติไม่เป็นเอกฉันท์ในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือน พ.ค.563 ซึ่ง BAY เห็นว่ามีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ กนง.จะตัดสินใจลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไป ควบคู่ไปกับการใช้มาตรการเฉพาะจุด กรรมการส่วนใหญ่มองว่าการใช้มาตรการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพนั้นมีความสำคัญกว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่นับว่าเป็นอัตราที่ต่ำมากอยู่แล้ว

กนง.ยังคงย้ำว่าสภาพคล่องนั้นยังมีอยู่ แต่การกระจายเงินทุนยังคงไม่สม่ำเสมอ และความเสี่ยงด้านเครดิตก็เพิ่มสูงขึ้น BAY ยังเฝ้าระวังวิกฤตด้านสาธารณสุขและผลกระทบต่อเศรษฐกิจรวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของเศรษฐกิจต่อไป

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ส.ค. 64)

Tags: , , ,