KEX ทุ่มขยาย Cold Chain ดันขึ้นเบอร์ 1 รายได้แตะ 1 พันลบ.ก่อนส่งเข้าตลาดหุ้น

นายวราวุธ นาถประดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการ บมจ.เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (KEX) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวธุรกิจ KERRY COOL บริการขนส่งพัสดุและสินค้าแบบขนส่งเย็นและควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain) โดยเป็นการร่วมทุนระหว่าง KEX กัยเครือเบทาโกรในสัดส่วน 60 : 40 โดยดำเนินงานภายใต้ บริษัท เคอรี่เบทาโกร จำกัด ทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 50 ล้านบาท

บริษัทมองเห็นถึงโอกาสของความต้องการใช้บริการขนส่งเย็นที่เติบโตขึ้นทั้งในกลุ่มลูกค้าองค์กรและลูกค้าทั่วไป และยังมีช่องว่างทางการตลาดที่บริษัทสามารถเข้าไปรุกธุรกิจดังกล่าวได้ จากการที่การให้บริการขนส่งแบบ Cold Chain ในปัจจุบันมีเพียงผู้ประกอบการรายเล็กในจำนวนไม่มากที่ให้บริการ ทำให้บริษัทในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่และมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการขนส่งสินค้า ผนวกกับความเชี่ยชาญของเครือเบทาโกรในเรื่องของการจัดเก็บสินค้าที่มีคุณภาพ ทำให้เห็นถึงโอกาสในการเข้ามารุกธุรกิจ Cold Chain อย่างจริงจัง และจะเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ลูกค้าได้รับความน่าเชื่อถือและบริการที่มีคุณภาพจากเคอรี่ เอ็กซ์เพรส

บริษัทเป้าหมายรายได้ในช่วง 5 ปี ของ KERRY COOL ขึ้นไปแตะระดับ 1 พันล้านบาท กลยุทธ์หลักจะมาจากการขยายแพลตฟอร์มบริการ และการเพิ่มช่องทางการให้บริการของ KERRY COOL ให้ทั่วถึงและครอบคลุมทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่ เพื่อทำให้ลูกค้าทุกกลุ่มสามารถใช้บริการได้อย่างสะดวก และเลือกใช้ KERRY COOL เป็นอันดับแรก ฃ

บริษัทวางงบลงทุนรวมไว้ราว 1 พันล้านบาทรองรับการขยายช่องทางต่างๆ ของ KERRY COOL ทั้งศูนย์ขนส่ง (Distribution Center) และจุดรับสินค้า (Service Point) ซึ่งปัจจุบัน ได้มีการเริ่มให้บริการในกลุ่มลูกค้า B2B ในภาคใต้ โดยส่วนใหญ่จะยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าของเบทาโกรที่เป็นพันธมิตรกับบริษัทใช้บริการ ซึ่งมี Distribution Center ที่รองรับในการให้บริการ จำนวน 55 ศูนย์ และ Service Point จำนวน 1,000 จุด

ด้านการขยายแพลตฟอร์ม Cold Chain ของ KERRY COOL จะรุกตลาดอย่างหนักมากขึ้นในต้นปี 65 เป็นต้นไป โดยที่ในช่วงไตรมาส 1/65 จะขยายฐานกลุ่มลูกค้า B2B และเพิ่มบริการกลุ่มลูกค้า B2C เข้ามาเพิ่มเติม และในไตรมาส 2/64 จะเพิ่มบริการไปที่กลุ่มลูกค้า C2C เข้ามาเพื่อทำให้บริการ Cold Chain ของ KERRY COOL ครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า พร้อมกับการเดินหน้าทำการตลาดเพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยบริษัทคาดหวังภายใน 3 ปี KERRY COOL จะมีส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) เพิ่มขึ้นไปมากกว่า 50% หรือขึ้นเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาด Cold Chain

สำหรับรายได้ที่มาจากธุรกิจ KERRY COOL ที่จะเข้ามาใน KEX นั้น คาดว่าภายในช่วง 3 ปีจะมีสัดส่วนรายได้คิดเป็น 25% ของรายได้รวมทั้งหมด และวางเป้าหมายผลักดัน KERRY COOL เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯภายใน 5 ปี ซึ่งจะเป็นการต่อยอดโอกาสในการขยายธุรกิจและสร้างการเติบโตให้กับ KERRY COOL ได้มากขึ้นในอนาคต

นายอเล็กซ์ อึ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KEX กล่าวว่า เปิดเผยว่า KERRY COOL จะเข้ามาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคด้วยบริการขนส่งเย็นแบบครบวงจรเจ้าแรกของไทย โดยบริษัทเป็นผู้ประกอบการรายแรกที่ให้บริการขนส่งสินค้าด้วยแพลตฟอร์มการขนส่งสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Express Delivery Platform) โดยนำเทคโนโลยีและบริการที่มีคุณภาพระดับโลกอย่างระบบ Advanced technology & signaling system ซึ่งถือเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ KEX ช่วยให้ลูกค้าสามารถติดตามอุณหภูมิของพัสดุตลอดการขนส่ง ไปพร้อมกับการติดตามสถานะการขนส่งได้แบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังมีระบบการควบคุมอุณหภูมิภายในรถแบบ Dual Chamber ซึ่งสามารถควบคุมอุณหภูมิได้ทั้ง 2 แบบ คือ แบบแช่เย็น และแช่แข็ง

นอกจากนี้ KERRY COOL ได้นำความเชี่ยวชาญในการเป็นผู้นำธุรกิจจัดส่งพัสดุด้วยโมเดล Hub-and-Spoke ของ KEX มาปรับใช้อย่างเหมาะสม เพื่อช่วยในการลดต้นทุนและค่าดำเนินการขนส่ง ช่วยประหยัดเวลา และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดส่งได้มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงบริการที่ยอดเยี่ยมในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย

ขณะที่ความต้องการใช้บริการขนส่งแบบ Cold Chain มีความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคนิยมสั่งซื้อสินค้าประเภทอาหารที่ต้องการเก็บและขนส่งในรูปแบบรักษาคุณภาพ เพื่อทำให้สินค้าถึงมือลูกค้าอย่างมีคุณภาพมากที่สุด ปัจจุบัน Cold Chain ยังมีสัดส่วนน้อยกว่า 5% ของมูลค่าตลาดรวมทั้งหมดของบริการขนส่ง มูลค่าตลาดรวมบริการขนส่งแบบ Cold Chain ราว 4 หมื่นล้านบาท แต่ตลาดเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 12-15% ต่อปี และยังไม่มีผู้ประกอบการรายใหญ่มากนัก ทำให้ยังมีโอกาสอีกมากที่บริษัทจะเข้าไปคว้าโอกาสขยายบริการขนส่ง Cold Chain เข้ามาเสริมในบริการขนส่งของ KEX

อีกทั้งในส่วนของประเภทสินค้าอื่นๆยังมีตวามต้องการใช้บริการขนส่งควบคุมอุณหภูมินอกเหนือจากสินค้ากลุ่มอาหาร เช่น ยา และสินค้าในกลุ่มความงาม เป็นต้น ทำให้มองว่าโอกาสการเติบโตยังมีอีกมากในการที่กลุ่มลูกค้าที่ผลิตสินค้าอื่นๆ นอกเหนือจากอาหารจะเริ่มเข้ามาใช้บริการขนส่งแบบ Cold Chain มากขึ้น

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือเบทาโกร กล่าวว่า ด้วยจุดประสงค์ของเบทาโกร ที่มุ่งมั่นยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของประเทศ ด้วยการส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยสูงในราคาที่เป็นธรรมสู่ผู้บริโภค เราจึงมองหาโอกาสในการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่มีความแข็งแกร่งด้านคุณภาพการให้บริการขนส่ง เพื่อส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัยในราคาที่เป็นธรรมให้เข้าถึงทุกคนในวงกว้างมากขึ้น

ประกอบกับธุรกิจ Cold Chain Delivery ของไทยในปัจจุบันยังคงเน้นกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่เป็นหลัก ยังไม่สามารถให้บริการผู้ประกอบการรายกลาง รายย่อย และผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง ขณะที่พฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภคช่วงหลังสถานการณ์โควิด-19 มีการซื้อสินค้าและอาหาร รวมถึงกลุ่มอาหารสด หรือแช่เย็น แช่แข็ง ผ่านช่องทาง Online เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการอาหารทั้งรายใหญ่ และรายย่อยทั้งหมด ต้องปรับตัวทางธุรกิจ มาให้ความสำคัญเรื่อง Food Delivery มากขึ้น

เครือเบทาโกร จึงได้จับมือร่วมกับ KEX สร้างธุรกิจ KERRY COOL หวังยกระดับอุตสาหกรรมอาหารด้วย Cold Express Delivery Platform ที่จะช่วยทำให้โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ของอุตสาหกรรมอาหารให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่ รายกลาง และรายย่อย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยการมอบประสบการณ์ใหม่ ด้วยบริการส่งอาหารพร้อมทานและวัตถุดิบเพื่อประกอบอาหารที่เปิดกว้างมากขึ้น สามารถสั่งซื้อได้จากทุกพื้นที่ มาพร้อมความสะดวกสบาย และความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของอาหารในราคาที่เข้าถึงได้ ทั้งหมดนี้ KERRY COOL นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่สามารถเชื่อมโยงทุกภาคส่วนใน Food Supply Chain ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ และทั่วภูมิภาคของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ย. 64)

Tags: , , ,