NCH คาดผลงาน Q2/64 ยังเป็นบวกจากยอดจองสะสม-ยอดผู้เข้าชมโครงการดี แต่อาจหดตัว YoY

นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง (NCH) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/64 คาดเป็นบวกจากยอดจอง (Booking) ที่สะสมมาจากไตรมาส 1/64 ประกอบกับยอดผู้เข้าชม (Walk) ยังอยู่ในระดับดี เนื่องจากบริษัทได้ทำการตลาดออนไลน์มากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า

แต่คาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/64 ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว บริษัทได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 จากกำลังซื้อที่ลดลง ประกอบกับเรื่องการยื่นกู้ที่สามารถดำเนินการได้ช้าลง ตั้งแต่เดือนเมษายนต่อเนื่องมาถึงเดือนพฤษภาคม ทั้งนี้คาดว่าในเดือนมิถุนายนสถานการณ์น่าจะปรับตัวดีขึ้น และคาดว่าจะเห็นการเติบโตอย่างชัดเจนในไตรมาส 4/64

ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ทั้งหมด 12 โครงการ มูลค่ารวม 8,900 ล้านบาท ขายแล้ว 5,956 ล้านบาท มีโครงการพร้อมโอน (Inventory) มูลค่ารวม 2,944 ล้านบาท และมียอดขายรอโอน (Backlog) ที่รับรู้ไปแล้วในไตรมาส 1/64 กว่า 890 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวม 494 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในไตรมาส 2-3/64 นี้

สำหรับในปี 64 บริษัทมีโครงการใหม่ทั้งหมด 7 โครงการ รวมมูลค่า 5,000 ล้านบาท โดยเปิดดำเนินการแล้ว 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท คือโครงการ Baan Fha Loft และโครงการ Baan Fha Time , ในเดือนมิถุนายนนี้จะเปิดตัวโครงการ Baan Fha Greenery Loft ที่พัทยา มูลค่า 320 ล้านบาท, ในไตรมาส 3/64 จะเปิดอีก 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท คือโครงการ NC On Green Charm 2 และโครงการ NC On Green Palm Park 2 นอกจากนี้อีก 2 โครงการที่เหลือจะทยอยเปิดตัวในช่วงไตรมาส 3-4/64

ทั้งนี้การเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 7 โครงการจะส่งผลให้บริษัทสามารถทำตามเป้ารายได้ที่ตั้งไว้ 2,000 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/64 บริษัทสามารถทำรายได้แล้ว 44.54% และยังคงเป้ายอดขายที่ตั้งไว้ในช่วงต้นปีอยู่ที่ 3,200 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/64 บริษัทสามารถทำยอดขายได้แล้ว 35.37%

ส่วนศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพทั้ง 3 แห่ง ลูกค้าได้มีการติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อเข้ารับบริการจำนวนมาก เนื่องจากเทรนด์เรื่องสุขภาพกำลังมาแรง ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการที่สนใจลงทุนด้านสุขภาพร่วมกับทางบริษัท ได้ทำการติดต่อมาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาเพิ่มเติม คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะเห็นความคืบหน้า

นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการวางแผนขยายธุรกิจเชิงรุกด้วยตนเองในช่วงครึ่งปีหลังด้วย ส่วนแนวทางการพัฒนาที่ดินในเชียงใหม่ยังอยู่ระหว่างการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทได้มองหาความร่วมมือด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านสุขภาพเพิ่มเติมจากทั้งในประเทศ และต่างประเทศด้วย

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1/64 บริษัทสามารถทำยอดขายในไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 1,131.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนที่ 701.06 ล้านบาท ส่วนรายได้อยู่ที่ 890.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนที่มีรายได้ที่ 328.98 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากทาวน์เฮาส์ที่ 45.06% รายได้จากบ้านเดี่ยวอยู่ที่ 32.55% รายได้จากบ้านแฝดอยู่ที่ 20.16% และรายได้จากคอนโดอยู่ที่ 2.23%

ด้านกำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 256.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 155% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้นที่ 100.44 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 28.76% ส่วนกำไรสุทธิของบริษัทในไตรมาส 1/64 อยู่ที่ 80.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 863% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนที่ 8.35 ล้านบาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มิ.ย. 64)

Tags: , , , , ,