NVD รับโควิดกดดัน H2/64 ลูกค้าชะลอซื้อ-ปรับโครงสร้างธุรกิจ,เตรียมขายที่ดินเพิ่ม

นายจิรเดช นุตสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บมจ.เนอวานา ไดอิ (NVD) เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้นปัจจุบัน ยังเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันให้กับภาพรวมของผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 64 ต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเข้าเยี่ยมชมและการซื้อที่อยู่อาศัยของกลุ่มลูกค้าของบริษัทที่เห็นการชะลอตัวลงค่อนข้างมากา เห็นได้จากการเข้าเยี่ยมชมและการซื้อโครงการแนวราบที่ชะลอตัวลงไปมาก สวนทางกับภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่โครงการแนวราบที่ยังมีการเติบโตขึ้น

โดยที่บริษัทคาดว่ามาจากความกังวลและความไม่มั่นใจต่อสถานการณ์โควิดที่ระบาดรุนแรงและยังไม่คลี่คลายอย่างชัดเจน ส่งผลให้กลุ่มลูกค้าของบริษัท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน ชะลอการซื้อที่อยู่อาศัยไป ทำให้การขายโครงการแนวราบของบริษัทชะลอตัวลงไป

ขณะเดียวกัน หลังจากบริษัทออกจากกลุ่ม บมจ.สิงห์ เอสเตท (S) ได้มีการปรับโครงสร้างต่างๆ ภายในริษัท รวมถึงการปรับโครงสร้างทางการเงิน ทำให้การทำกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ ของบริษัทยังไม่มีออกมาเพื่อกระตุ้นและดึงดูดลูกค้า ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่บาดในปัจจุบัน ทำให้ยังไม่เหมาะที่จะเปิดโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาหนุนภาพรวมของผลการดำเนินงานให้ฟื้นตัวขึ้นมาอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ได้

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 3/64 บริษัทจะมีการรับรู้รายได้จากรายการพิเศษที่ได้มีการขายที่ดินย่านบางรักใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง ออกไปในช่วงปลายไตรมาส 2/64 มูลค่า 56.7 ล้านบาท ซึ่งจะเข้ามาบันทึกในงบไตรมาส 3/64 ของบริษัท ซึ่งจะทำให้งบปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/64 จากการบันทึกรายได้จากการขายที่ดินดังกล่าว

ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทยังมีการทยอยโอนโครงการให้กับลูกค้าเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าจะมีการรับรู้รายได้จากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) เข้ามาราว 400-500 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จาก Backlog ทั้งหมดที่มีกว่า 1 พันล้านบาท โดยที่จะมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียม Bayan Tree Residence และ The Most อิสรภาพ ส่วนโครงการแนวราบยังมีการโครงการ Nirvana Defi และ Nirvana Element บางนา

นอกจากนั้น บริษัทวางแผนเปิดโครงการแนวราบใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 7 พันล้านบาทในชวงครึ่งปีหลัง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมเปิดโครงการ ซึ่งจะทยอยเปิดขายปลายเดือนก.ย. 64 เป็นต้นไป เป็นโครงการที่ออกแบบบ้านใหม่ คาดว่าลูกค้าจะให้การตอบรับที่ดี และช่วยสร้างยอดขายเข้ามาในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ อีกทั้งบริษัทยังมีแผนการขายที่ดินบางส่วนออกไปอีก โดยจะเจรจากับผู้สนใจ โดยขณะนี้มีที่ดินที่จะเตรียมขายมูลค่ารวม 1.8 พันล้านบาท คาดว่าจะสามารถขายออกไปได้ในช่วงที่เหลือปีนี้ราว 30% ของมูลค่ารวม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ส.ค. 64)

Tags: , , , ,