TSMC เรียกร้องรัฐบาลผลักดันอินเดียยกเลิกมาตรการอุดหนุนส่งออกน้ำตาล

นายปราโมทย์ วิทยาสุข ประธาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย (TSMC) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายประเทศออสเตรเลีย เสนอหน่วยงานภาครัฐให้ดำเนินการผลักดันอินเดีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ให้ยกเลิกการอุดหนุนการปลูกอ้อยของชาวไร่และการส่งออกน้ำตาลไปยังตลาดโลก ที่ส่งผลให้ราคาน้ำตาลในตลาดโลกผันผวน สร้างความเสียหายและทำลายโอกาสทำรายได้จากการส่งออกในราคาที่ควรจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันที่เฉลี่ยราคาประมาณ 17 เซนต์ต่อปอนด์ หลังความต้องการปริมาณน้ำตาลในตลาดโลกเพิ่มขึ้นจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว

จากการศึกษาของประเทศออสเตรเลีย พบว่า การดำเนินนนโยบายของรัฐบาลอินเดียเพื่อช่วยเหลือชาวไร่อ้อยด้วยการอุดหนุนการผลิตและการส่งออกน้ำตาลส่วนเกินประมาณกว่า 6 ล้านตัน โดยในช่วงรอบฤดูการผลิต 3 ปีที่ผ่านมา หรือปี 2560/61 – 2563/64 รัฐบาลอินเดียใช้เงินอุดหนุนการส่งออกมากกว่า 1.998 พันล้านหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 6.55 หมื่นล้านบาท ซึ่งกดดันต่อราคาตลาดโลกปรับตัวลดลงประมาณปีละ 13.1% และทำให้อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของออสเตรเลียสูญเสียรายได้จากการส่งออกน้ำตาล 63 เหรียญออสเตรเลียต่อตันน้ำตาล (ประมาณ 1,530 บาทต่อตันอ้อย) หรือคิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 189 ล้านเหรียญออสเตรเลียต่อปี (ประมาณ 4.58 พันล้านบาท) จากปริมาณการส่งออกน้ำตาลปีล่าสุดอยู่ที่ 3 ล้านตัน

ขณะที่ประเทศไทย ในฐานะที่เป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก มีปริมาณการส่งออกน้ำตาลทรายไปยังตลาดโลกในรอบการผลิตปีที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 6 ล้านตันน้ำตาล ซึ่งได้รับความเสียหายประมาณกว่า 1 หมื่นล้านบาทต่อปี เมื่อเปรียบเทียบเชิงปริมาณการส่งออกน้ำตาลของไทยที่สูงกว่าออสเตรเลียถึง 2 เท่า ดังนั้น TSMC จึงเรียกเรียกร้องให้รัฐบาลไทยดำเนินการผลักดันประเทศอินเดียให้ยกเลิกมาตรการอุดหนุนและเรียกร้องให้ปฎิบัติตามกฎกติกาการค้าโลก ภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก (WTO) อย่างเคร่งครัด

“เราในฐานะผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลกย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้กับผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยสร้างความเสียหายแก่อุตสาหกรรม ต้องสูญเสียโอกาสส่งออกน้ำตาลช่วงที่ราคาตลาดโลกที่ดี และเราเชื่อว่าราคายังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก แต่เมื่อเจอแรงกดดันจากซัพพลายของประเทศอินเดียทำให้ราคามีความผันผวนมากขึ้น และหากรัฐบาลอินเดียยังคงให้อุดหนุนอุตสาหกรรมน้ำตาลต่อไป ราคาตลาดโลกจะยังเผชิญแรงกดดันต่อไปอีก” นายปราโมทย์ กล่าว

นายปราโมทย์ กล่าวว่า จากการประเมินปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้นในช่วงนี้ จะส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของอ้อย โดยคาดว่าปริมาณผลผลิตอ้อยในฤดูการผลิตหน้า (ปี 2564/65) จะอยู่ที่ประมาณ 90 ล้านตัน ตามที่ TSMC เคยประมาณการไว้ เนื่องจากชาวไร่อ้อยมีการขยายการเพาะปลูกอ้อยและบำรุงรักษาอ้อยเพิ่มขึ้น ขณะที่ โรงงานน้ำตาลได้สนับสนุนช่วยเหลือชาวไร่ด้านเงินทุนและปัจจัยการผลิตต่างๆ รวมทั้ง การประกันราคาอ้อยปีหน้าที่ตันอ้อยละ 1,000 บาท ที่ค่าความหวาน 10 ซี.ซี.เอส.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ค. 64)

Tags: , , , , ,