สำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) ของอังกฤษรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 3.2% เมื่อเทียบรายปี และเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการเริ่มจัดทำดัชนีดังกล่าวเมื่อปี 2540
นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี CPI ของอังกฤษเพิ่มขึ้นแตะระดับ 2.9% ในเดือนส.ค. หลังจากที่ปรับตัวลงแตะระดับ 2% ในเดือนก.ค.เมื่อเทียบรายปี
ทั้งนี้ ONS คาดว่าการพุ่งขึ้นของดัชนี CPI นั้นเป็นเพียงสภาวะชั่วคราว โดยระบุว่า สาเหตุที่ดัชนีปรับตัวขึ้นเช่นนี้อาจมากจากการใช้มาตรการ Eat Out to Help Out (EOHO) ของรัฐบาลอังกฤษเมื่อปีที่ผ่านมา
“ในเดือนส.ค. 2563 ร้านอาหารและคาเฟ่ต่างๆ ปรับลดราคาอาหารลงตามมาตรการ EOHO ที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มได้ในราคา 50% ในวันจันทร์-วันพุธ (มูลค่าสูงสุด 10 ปอนด์)” ONS ระบุ และเสริมว่า “มาตรการ EOHO เป็นเพียงมาตรการระยะสั้น การพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อในเดือนส.ค.เมื่อเทียบรายปีเช่นนี้ จึงน่าจะเป็นสภาวะชั่วคราว”
ดัชนี CPI ยังคงเพิ่มขึ้นสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางอังกฤษที่ระดับ 2% อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะยิ่งทำให้เกิดกระแสเรียกร้องให้ยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีการประกาศใช้ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นอย่างมากของดัชนี CPI ยังเกิดขึ้นท่ามกลางราคาพลังงานที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่อังกฤษกลับมาเปิดเศรษฐกิจหลังจากใช้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดมาอย่างยาวนาน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ก.ย. 64)
Tags: CPI, ONS, ดัชนีราคาผู้บริโภค, ธนาคารกลางอังกฤษ, สำนักงานสถิติแห่งชาติ, อังกฤษ, เงินเฟ้อ