นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. กล่าวว่า ที่ประชุม กกพ. มีมติปรับลดค่าไฟงวด พ.ค.-ส.ค.68 ลงเหลือ 3.98 บาทต่อหน่วย เทียบกับงวดปัจจุบันอยู่ที่ 4.15 บาทต่อหน่วย โดยจะใช้เงินเรียกคืนผลประโยชน์ส่วนเกิน (claw back) จาก 3 การไฟฟ้า มาใช้ในงวดนี้ประมาณ 12,200 ล้านบาท หรือคิดเป็นประมาณ 17 สตางค์ของหน่วย

ก่อนหน้านี้ กระทรวงพลังงาน ได้เสนอเป้าหมายในการปรับลดอัตราค่าไฟที่จะประกาศเรียกเก็บกับผู้ใช้ไฟฟ้าสำหรับรอบเดือน พ.ค.-ส.ค.68 ลงเหลือไม่เกินอัตรา 3.99 บาท/หน่วย โดยไม่ได้ใช้งบอุดหนุนจากภาครัฐ
สำหรับเงิน claw back จาก 3 การไฟฟ้า รวมทั้งสิ้น 20,000 ล้านบาท เมื่อหักจากงวดนี้ยังเหลืออยู่อีก 8,000 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับดูแลค่าไฟในยามวิกฤตต่อไป อย่างไรก็ตามเงิน claw back ก้อนนี้ เพิ่งจะมีความชัดเจนหลังจากที่ กกพ.ประกาศค่าไฟ 4.15 บาทต่อหน่วยไปแล้วก่อนหน้านี้ จากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการลดค่าครองชีพของประชาชน กกพ.จึงตัดสินใจนำเงินก้อนนี้มาใช้ลดค่าไฟ
ทั้งนี้ การลดค่าไฟฟ้างวดดังกล่าว ไม่กระทบกับการชำระหนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยยังสามารถชำระอัตราเดิมที่ 20.33 สตางค์ต่อหน่วย หรือคิดเป็นประมาณ 14,000-15,000 ล้านบาท จากปัจจุบันหนี้ กฟผ.อยู่ที่ 71,000 ล้านบาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 เม.ย. 68)
Tags: กกพ., ค่าไฟ, ค่าไฟฟ้า, พลังงานไฟฟ้า, พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์