สื่อท้องถิ่นแคนาดารายงานในวันอังคาร (3 มิ.ย.) ว่า ประชาชนแคนาดากว่า 25,000 คน ต้องอพยพหนีภัยจากไฟป่าหลายจุดในประเทศ โดยในจำนวนนี้ ประชาชนมากกว่า 9,000 คนได้รับการอพยพออกจากพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐซัสแคตเชวันเรียบร้อยแล้ว ขณะที่สก็อตต์ โม มุขมนตรีของรัฐกล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นถึง 15,000 คนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐบาลรัฐซัสแคตเชวันประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับรัฐเป็นเวลา 30 วัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่รัฐข้างเคียงอย่างแมนิโทบาก็ออกประกาศในลักษณะเดียวกัน พร้อมสั่งอพยพประชาชนอีกราว 17,000 คน
แถลงการณ์สถานการณ์ไฟป่าของรัฐแมนิโทบาระบุว่า จนถึงวันที่ 2 มิ.ย. มีประชาชนที่ได้ลงทะเบียนเป็นผู้อพยพจากไฟป่าทั่วรัฐแมนิโทบากับสภากาชาดแคนาดาแล้วกว่า 14,300 คน
ข้อมูลจากกระทรวงสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของแคนาดาระบุว่า ควันจากไฟป่าได้กระตุ้นให้เกิดการแจ้งเตือนเกี่ยวกับคุณภาพอากาศทั่วแคนาดา โดยพื้นที่ที่มีฝุ่นควันหนาแน่นที่สุดคือ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐออนแทรีโอและบริเวณตอนกลางของรัฐแมนิโทบา นอกจากนี้ ควันไฟยังกระจายไปยังตอนบนของมิดเวสต์ในสหรัฐฯ
ข้อมูลจากดาวเทียมยังแสดงให้เห็นอีกว่า ควันไฟได้ลอยข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกและเข้าสู่พื้นที่บางส่วนของยุโรปและคาดว่าจะมีมากขึ้นในสัปดาห์นี้
เอเลนอร์ โอลเซฟสกี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินของแคนาดา กล่าวเมื่อวันอังคารว่า รัฐบาลกลางจะสมทบเงินบริจาคให้กับสภากาชาดแคนาดาด้วยเงินทุนที่จัดสรรไว้ให้สำหรับการบรรเทาทุกข์จากไฟป่าและการฟื้นฟูจากภัยพิบัติ
ศูนย์ประสานงานจัดการไฟป่าของแคนาดากล่าวเมื่อคืนวันอังคารว่า เกิดไฟป่าที่ยังลุกลามอยู่อย่างน้อย 203 จุดทั่วประเทศ โดยเป็นไฟป่าที่ควบคุมไม่ได้ 104 จุด ซึ่งไฟป่าในประเทศในปีนี้มีจำนวนถึง 1,723 ครั้ง เผาผลาญพื้นที่ไปประมาณ 22,000 ตารางกิโลเมตร
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มิ.ย. 68)