ดาวโจนส์ปิดบวก 254.48 จุด รับข่าวสหรัฐฯ-อังกฤษบรรลุดีลการค้า

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สองในวันพฤหัสบดี (8 พ.ค.) ขานรับข่าวการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าการเจรจากับจีนที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ จะมีสาระสำคัญมากกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก

  • ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,368.45 จุด เพิ่มขึ้น 254.48 จุด หรือ +0.62%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,663.94 จุด เพิ่มขึ้น 32.66 จุด หรือ +0.58% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,928.14 จุด เพิ่มขึ้น 189.98 จุด หรือ +1.07%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากปธน.ทรัมป์แถลงข่าวที่ทำเนียบขาวในวันพฤหัสบดีว่า สหรัฐฯ ได้บรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหราชอาณาจักรแล้ว ซึ่งเป็นข้อตกลงฉบับแรกที่สหรัฐฯ ทำกับประเทศคู่ค้า นับตั้งแต่ที่ปธน.ทรัมป์ประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้กับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในเดือนเม.ย.

สหราชอาณาจักรได้ตกลงที่จะปรับลดภาษีศุลกากรลงเหลือ 1.8% จากเดิม 5.1% และเปิดโอกาสให้สินค้าสหรัฐฯ เข้าถึงตลาดได้มากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้าครั้งใหม่นี้ ขณะที่ภาษีศุลกากรพื้นฐาน (Baseline Tariff) ในอัตรา 10% ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าของสหราชอาณาจักรนั้น จะยังคงอยู่

ปธน.ทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า เขาคาดว่าการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ในช่วงสุดสัปดาห์นี้จะมีสาระสำคัญมากกว่าที่คิดไว้ และเขาจะไม่แปลกใจหากทั้งสองประเทศสามารถบรรลุข้อตกลง โดยสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และเจมีสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ จะพบปะกับเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ที่สวิตเซอร์แลนด์ในวันเสาร์นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นภาษีศุลกากรและการค้า

หุ้นสายการบินพุ่งสูงขึ้น หลังจากข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรระบุว่าให้มีการยกเว้นภาษีนำเข้าชิ้นส่วนเครื่องบินที่ผลิตโดยบริษัทโรลส์-รอยซ์ (Rolls-Royce) โดยหุ้นกลุ่มสายการบินในดัชนี S&P500 พุ่งขึ้น 5.4% นำโดยหุ้นเดลต้าแอร์ไลน์ (Delta Air Lines) ทะยานขึ้น 7.2%

หุ้นโบอิ้ง (Boeing) พุ่งขึ้น 3.3% ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในดัชนีดาวโจนส์ หลังจากฮาเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหราชอาณาจักรจะซื้อเครื่องบินโบอิ้งมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์

หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์พุ่งขึ้น หลังจากโฆษกกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลมีแผนจะยกเลิกและปรับเปลี่ยนกฎระเบียบควบคุมการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขั้นสูงที่เคยบังคับใช้ในยุคของอดีตปธน.โจ ไบเดน

สำหรับการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนั้น ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. หลังเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดส่งสัญญาณไม่รีบปรับลดดอกเบี้ย นอกจากนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 3 ครั้งในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนก.ค., เดือนก.ย. และเดือนธ.ค.

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 13,000 ราย สู่ระดับ 228,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 231,000 ราย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 พ.ค. 68)

Tags: , , ,