ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ (23 พ.ค.) โดยนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง หลังมีสัญญาณบ่งชี้ว่าการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ มีความคืบหน้า
ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 37,280.84 จุด เพิ่มขึ้น 294.97 จุด หรือ +0.80%, ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 23,679.99 จุด เพิ่มขึ้น 135.68 จุด หรือ +0.58% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,382.96 จุด เพิ่มขึ้น 2.77 จุด หรือ +0.08%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 0.4% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดบวก 0.33%
สถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนส่งสัญญาณคืบหน้า โดยกระทรวงการต่างประเทศจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า สหรัฐฯ และจีนได้ตกลงที่จะยังคงมีการสื่อสารร่วมกันต่อไป หลังจากหม่า จ้าวซู่ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน และคริสโตเฟอร์ แลนเดา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้หารือกันทางโทรศัพท์
แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศจีนระบุว่า ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นสำคัญต่างๆ ในระหว่างการพูดคุยกันโทรศัพท์ในวันพฤหัสบดี (22 พ.ค.) ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ที่คล้ายกันเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องเกี่ยวกับความสำคัญของความสัมพันธ์ทวิภาคีและข้อตกลงในการรักษาช่องทางการสื่อสารให้เปิดกว้าง
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมอาหารสดที่มีความผันผวน เพิ่มขึ้น 3.5% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2566 เนื่องจากต้นทุนพลังงานปรับตัวสูงขึ้น หลังรัฐบาลลดเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวลดลง 0.1% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน นับเป็นการลดลงรายเดือนครั้งแรกในรอบ 6 เดือน โดยมีปัจจัยหลักจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ค. 68)
Tags: ตลาดหุ้นเอเชีย