สหรัฐฯ เตรียมเพิ่มภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจาก 25% เป็น 50% โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศแผนดังกล่าวในวันศุกร์ (30 พ.ค.) ในระหว่างการปราศรัยที่โรงงานเหล็กของบริษัทยูเอส สตีล (US Steel) ในเมืองมอน วัลเลย์ รัฐเพนซิลเวเนีย
ทรัมป์ระบุว่า การขึ้นภาษีนี้มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมภายในประเทศ โดยกล่าวว่า มาตรการใหม่นี้จะช่วยรักษาความมั่นคงให้อุตสาหกรรมเหล็กของสหรัฐฯ และยังเสริมอีกว่าภาษีที่เพิ่มขึ้นจะครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์อะลูมิเนียมด้วย โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มิ.ย.นี้
ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังได้ชูข้อตกลงระหว่างบริษัทนิปปอน สตีล (Nippon Steel) และยูเอส สตีล (US Steel) มูลค่า 1.49 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเขามองว่าจะช่วยรักษาตำแหน่งงานของแรงงานในสหรัฐฯ ได้
หุ้นของบริษัทคลีฟแลนด์-คลิฟส์ (Cleveland-Cliffs Inc) ผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ พุ่งขึ้นถึง 26% หลังจากตลาดปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนคาดว่ามาตรการภาษีใหม่จะช่วยหนุนผลประกอบการของบริษัท
ทรัมป์ประกาศนโยบายนี้ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเขากล่าวหาว่าจีนละเมิดข้อตกลงกับสหรัฐฯ ในการลดภาษีและข้อจำกัดทางการค้าสำหรับแร่ธาตุสำคัญ ซึ่งเป็นการยกระดับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ถือเป็นผู้นำเข้าเหล็กรายใหญ่ที่สุดของโลก (ยกเว้นสหภาพยุโรป) โดยในปี 2567 มีปริมาณนำเข้าเหล็กถึง 26.2 ล้านตัน ตามรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ซึ่งหมายความว่าภาษีใหม่นี้จะกระทบราคาในตลาดเหล็กโดยรวม และจะกระทบต่อทั้งอุตสาหกรรมและผู้บริโภคในประเทศ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (31 พ.ค. 68)
Tags: ขึ้นภาษี, ภาษีนำเข้า, อะลูมิเนียม, เหล็ก, โดนัลด์ ทรัมป์