ทำเนียบขาวเผย ผู้นำสหรัฐฯ-จีนอาจคุยกันในสัปดาห์นี้ หลังโต้ตอบดุเดือดไม่กี่วันก่อน

แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงเมื่อวานนี้ (2 มิ.ย.) ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน น่าจะได้มีโอกาสหารือกันภายในสัปดาห์นี้ ไม่กี่วันหลังจากที่ปธน.ทรัมป์เพิ่งกล่าวหาจีนว่าละเมิดข้อตกลงการค้าเบื้องต้นที่ทั้งสองฝ่ายทำร่วมกันที่กรุงเจนีวา ส่งผลให้จีนออกแถลงการณ์โจมตีกลับ ระบุสหรัฐฯ เป็นฝ่ายที่ไม่ทำตามข้อตกลง พร้อมทั้งประกาศเตรียมตอบโต้แข็งกร้าว

ถ้อยแถลงของโฆษกทำเนียบขาวสอดคล้องกับของสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ที่เพิ่งเปิดเผยในวันก่อนหน้านั้นว่า ว่าปธน.ทรัมป์และปธน.สีจะคุยกันใน “เร็ว ๆ นี้” เพื่อแก้ไขปัญหาสงครามการค้า รวมถึงข้อพิพาทเรื่องแร่ธาตุสำคัญ

อย่างไรก็ดี ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าผู้นำทั้งสองจะพูดคุยกันเมื่อใด

ทั้งนี้ สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ได้พบปะกับเหอ หลี่เฟิง รองนายกรัฐมนตรีจีน ที่สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีการปรับลดอัตราภาษีศุลกากรฝ่ายละ 115% เป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้อัตราภาษีของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีน ลดลงสู่ระดับ 30% จากเดิมที่ระดับ 145% ขณะที่อัตราภาษีของจีนที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับ 10% จากเดิมที่ระดับ 125%

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนกลับมาคุกรุ่นขึ้นอีกครั้ง หลังประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์ข้อความผ่าน Truth Social เมื่อวันศุกร์ (30 พ.ค.) กล่าวหาปักกิ่งว่า ละเมิดข้อตกลงการค้าเบื้องต้นที่ทั้งสองฝ่ายทำร่วมกันที่กรุงเจนีวา ส่งผลให้จีนออกแถลงการณ์โจมตีกลับ ระบุสหรัฐฯ เป็นฝ่ายที่ไม่ทำตามข้อตกลง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 มิ.ย. 68)

Tags: , ,