น.ส. ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธุรกิจการให้เช่าซื้อ และการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เป็นแหล่งเงินทุนสำคัญสำหรับประชาชน โดยปริมาณธุรกรรมมีค่อนข้างสูง
ล่าสุด ณ สิ้นปี 2567 ยอดธุรกรรมคงค้าง อยู่ที่ 1.6 ล้านล้านบาท ซึ่งมีนัยต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม และกระทบประชาชนในวงกว้าง และประมาณ 1 ใน 3 ของยอดธุรกรรมคงค้างดังกล่าว เป็นการให้บริการโดยผู้ประกอบธุรกิจที่ยังไม่มีหน่วยงานกำกับดูแลเฉพาะ
ทั้งนี้ พระราชกฤษฎีกากำหนดให้การประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อ และการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ อยู่ภายใต้บังคับของ พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 พ.ศ. 2568 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 68 และจะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.68 เป็นต้นไป
น.ส.ดารณี กล่าวว่า กฎหมายดังกล่าว ได้กำหนดให้ ธปท. เป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจการให้เช่าซื้อ และการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ เป็นทางค้าปกติที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลตามกฎหมายอื่น เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการ และการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับบริการที่เป็นธรรม และรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจการเงิน
“ในระหว่างนี้ ขอให้ผู้ประกอบธุรกิจ เตรียมความพร้อมในการรายงานตัวกับ ธปท. เพื่อรองรับการกำกับดูแล และถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของ ธปท. ในระยะข้างหน้า โดย ธปท. จะแจ้งวัน และระยะเวลาในการรายงานตัวให้ทราบต่อไป” น.ส.ดารณี ระบุ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มิ.ย. 68)
Tags: ดารณี แซ่จู, ธปท., ธุรกิจเช่าซื้อ, ลีสซิ่ง