“บิ๊กอ้วน” เผยวงหารือกัมพูชา ไทยเสนอถอยกำลังแก้ปมปะทะ ขู่เพิ่มมาตรการหากไร้ข้อสรุป

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า เมื่อวานได้หารือกับ พล.อ.เตีย เสฮา (Tea Seiha) รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กัมพูชา ที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกี่ยวกับแนวทางที่จะคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่งฝ่ายไทยอยากจะพูดคุย และทางกัมพูชาก็เดินทางเข้ามาที่จังหวัดสระแก้ว โดยรัฐบาลไทยยืนยันแล้วว่าไม่อยากเห็นสงคราม และไม่ได้กังวลที่จะมีการสู้รบ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นการสูญเสียที่ไม่ต้องการเห็น ความสัมพันธ์ที่มีอยู่จึงน่าจะพูดคุยกันได้และได้พูดคุยกันในภาพรวม โดยตนได้ฝากไปว่าเมื่อคุยกันแล้วและเข้าใจจุดยืนของแต่ละฝ่ายแล้ว เราอยากให้เป็นการคุยจำกัดเฉพาะที่ ส่วนเรื่องอื่น ๆ ก็เป็นสิทธิ์ของกัมพูชา

พร้อมกันนี้ได้ยืนยันว่า ไทยไม่ได้เข้าสู่กระบวนการของศาลโลก เพราะตั้งแต่ปี 2503 เป็นต้นมาจนกระทั่งปี 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีได้ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 มี.ค.67 ไทยก็ประกาศไม่รับอำนาจศาลโลก ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของกัมพูชาที่จะดำเนินการไปอย่างไร โดยเราไม่อยากคุยเรื่องเหล่านั้น ขณะนี้ไทยจำกัดเหตุเฉพาะที่เกิดความขัดแย้ง คือ จุดที่เกิดการปะทะว่าตรงนั้นเป็นอย่างไร ข้อเสนอของตนคือให้ถอยทหารออกไปเหมือนปี 2567 ที่เคยตกลงกันไว้ โดยให้ทหารกัมพูชากลับไปอยู่ตรงศาลาตรีมุข ซึ่งเรื่องนี้ไทยไม่ขัดข้อง โดยให้ถอยทหารออกไป 150-200 เมตร

เมื่อสถานการณ์คลี่คลายก็ใช้กลไก JBC พูดคุยกันด้วยเหตุผล นำแผนที่มาหารือกัน ถ้าสมมติว่าติดขัดยังไม่สามารถตกลงได้ ให้ตัวแทน JBC ที่เป็นเจ้าหน้าที่เทคนิคลงไปดูในพื้นที่เกิดเหตุจริง เพื่อที่จะได้ดูในรายละเอียดก่อนที่จะสรุป

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้ฝากข้อเสนอต่าง ๆ และมาตรการต่าง ๆ หากยังคุยไม่ได้เราก็มีความจำเป็นที่ต้องเพิ่มมาตรการ ซึ่งทางกัมพูชาเองก็อยากจะหลีกเลี่ยงสงคราม ไม่อยากให้เกิด เพราะรู้สึกเป็นเพื่อนกันมาทุกระดับชั้นก็พูดคุยกันได้ โดยไม่อยากให้เรื่องนี้บานปลาย ซึ่งทางกัมพูชาก็ตอบมาว่าเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ จึงขอให้นำแจ้ง พล.อ.ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และ สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภา

นายภูมิธรรม กล่าวว่า หลังการหารือเมื่อวานนี้ ทหารกัมพูชาก็ยังไม่ได้ถอยจากจุดที่เป็นปัญหา ส่วนที่นักวิชาการเสนอว่า ให้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลและเป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลในเรื่องนี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้ทำอยู่แล้ว สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก็ได้เตรียมการทั้งหมด กระทรวงการต่างประเทศก็ประสานอยู่ และให้สภาความมั่นคงประชุมชุดเล็กไปก่อน โดยในวันนี้ก็ได้มีการประชุมสภาความมั่นคงที่มีหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง สำหรับการประชุม JBC ในวันที่ 14 มิ.ย.68 ยังคงเดินหน้าต่อไปตามปกติ แต่ขอความร่วมมือให้ระมัดระวังเรื่องการนำเสนอข่าว

“ไม่ใช่อยู่ ๆ มาบอกว่าผมบินไปกัมพูชา ทัวร์ก็ลงอีกว่าไม่มีศักดิ์ศรี ผมว่าเลิกสิ่งเหล่านี้เถอะ เพราะทำให้การทำงานการแก้ปัญหายากขึ้น ผมไม่ได้กลัวสงคราม ให้ดูจากสงครามที่ยูเครน สิ่งที่เป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทั้งสองฝ่าย คนที่โดนก่อนคนแรกคือทหารที่อยู่แนวหน้า กับประชาชนที่อยู่ชายแดน ขอเถอะครับ เรื่องนี้เราไม่ได้กลัว ถ้ามันจำเป็น มันก็ต้องเกิด แต่ว่าอย่าเที่ยวยุให้ไปมีสงครามเลย สงครามไม่เคยดีกับใครดังนั้นข่าวควรที่จะระมัดระวัง อยู่ ๆ พอเห็นก็รีบโพสต์ ขอให้ดูข้อเท็จจริงก่อน ที่ไม่พูดก็เพราะอยากจะไปพบกันก่อน หรือเจอกันเงียบ ๆ ไม่อยากเจอกันท่ามกลางสื่อ นั่งคุยกัน เมื่อคุยกันแล้วและมีข้อสรุปก็จะมาแจ้ง บางครั้งการเจรจาการแก้ปัญหา ไม่จำเป็นต้องอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์ทุกครั้ง ผมอยากให้เข้าใจแบบนี้บางทีที่ปิดก็ไม่อยากปิด” นายภูมิธรรม กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 มิ.ย. 68)

Tags: , , , , ,