การประชุมสุดยอดของ 10 ชาติสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ครั้งที่ 46 ได้เปิดฉากขึ้นแล้วที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในวันนี้ (26 พ.ค.) โดยมีวาระสำคัญคือการรวมกลุ่มกันมากขึ้นในภูมิภาคและการฟื้นตัวจากภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจและการค้า
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในพิธีเปิดการประชุม อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้เรียกร้องให้สมาชิกอาเซียนร่วมมือกันเพื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงระเบียบโลก เพื่อสร้างความมั่นใจว่าวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป็นธรรมจะไม่ถูกละเลย
“สำหรับอาเซียนแล้ว สันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองของเราขึ้นอยู่กับระเบียบระหว่างประเทศที่เปิดกว้าง ครอบคลุม และยึดมั่นในกฎเกณฑ์ ซึ่งหยั่งลึกในการไหลเวียนอย่างเสรีของการค้า เงินทุน และประชาชน แต่รากฐานเหล่านี้กำลังถูกรื้อถอนภายใต้แรงผลักดันของการกระทำตามอำเภอใจ”
“การเปลี่ยนผ่านของระเบียบด้านภูมิรัฐศาสตร์กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ และระบบการค้าโลกกำลังเผชิญกับความตึงเครียดมากขึ้น จากการที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีศุลกากรฝ่ายเดียวเมื่อไม่นานมานี้ การกีดกันทางการค้ากำลังกลับมาอีกครั้ง ในขณะที่ระบบพหุภาคีกำลังแตกเป็นเสี่ยง” อันวาร์กล่าว
ด้านสำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างร่างแถลงการณ์ของประธานการประชุมว่า ผู้นำชาติสมาชิกอาเซียนจะแสดงความกังวลอย่างมากต่อ “มาตรการภาษีศุลกากรฝ่ายเดียว” โดยไม่ได้ระบุถึงสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ร่างแถลงการณ์ของประธานการประชุมยังระบุว่า ผู้นำกลุ่มอาเซียนจะเตือนว่าการใช้มาตรการภาษีศุลกากรเพียงฝ่ายเดียวได้สร้าง “ความท้าทายที่ซับซ้อนและหลากหลายต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ เสถียรภาพ และการรวมกลุ่มของอาเซียน” ซึ่งถือเป็นการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มอาเซียนที่มีต่อระบบการค้าพหุภาคีโดยมีองค์การการค้าโลกเป็นแกนหลัก
การประชุมสุดยอดอาเซียนมีขึ้นในขณะที่ประเทศสมาชิกอาเซียนกำลังเผชิญกับผลกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก โดยภาษีที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจาก 10 ประเทศสมาชิกอาเซียนมีตั้งแต่ 10 % ไปจนถึง 49%
ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกอาเซียนประกอบด้วย ไทย บรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 พ.ค. 68)
Tags: การค้า, มาเลเซีย, อาเซียน, เศรษฐกิจ