นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณี “คลิปเสียง” ระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาว่า กรณีคลิปเสียงหลุด ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายของ น.ส.แพทองธาร ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนในการบริหารราชการแผ่นดินไปจนหมดสิ้นแล้ว
บรรยากาศในสังคมมีข้อเรียกร้องหลายอย่าง ทั้งให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจยุบสภา ให้นายกรัฐมนตรีลาออก รวมทั้งการเรียกร้องให้เกิดการใช้อำนาจนอกระบบ เช่น การปฏิวัติรัฐประหาร
“เชื่อว่าประชาชนต้องการรัฐบาลที่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประเทศได้ ดังนั้น ทางออกเดียวที่จะได้รัฐบาลที่แก้ปัญหากับประเทศ ได้ รัฐบาลที่มีความชอบธรรม ได้รัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตย สิ่งหนึ่งที่อยากให้สื่อสาร คือ การปฏิวัติรัฐประหาร ไม่ใช่ทางออก” นายณัฐพงษ์ กล่าว
ขณะที่การลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า จากสมการตัวเลข สส.แต่ละพรรคในสภาฯ ตอนนี้ รวมถึงจุดยืนของพรรคประชาชนที่เราประกาศมาโดยตลอด ย้ำว่า เราจะไม่เป็นรัฐบาลภายใต้รัฐสภานี้แน่นอน รวมถึงรายชื่อแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นต้นนั้นส่วนตัวคิดว่าใช้กระแสเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกภายใต้สมการทางการเมืองแบบที่เป็นอยู่และแคนดิเดทนายกฯที่เหลืออยู่ไม่ใช่ทางออก ไม่ใช่รัฐบาลที่ดีที่สุด
“ดังนั้น ด้วยบริบทสถานการณ์และจุดยืนของพรรคประชาชนคือการที่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีใช้อำนาจในการยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนในการเลือกตั้งครั้งใหม่ เลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในการแก้ไขปัญหาให้กับประเทศ รวมถึงขอเรียกร้องไปยังพรรคร่วมรัฐบาลที่ยังไม่ได้ออกมาประกาศถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ถ้าหากคิดเห็นตรงกันว่าการ ใช้อำนาจนอกระบบไม่ใช่ทางออก รวมทั้งตัวแคนดิเดทนายกฯ อย่างเดียวไม่ใช่ทางออก ถ้าไม่ต้องการอยู่ในอำนาจเพื่อต่อรองตำแหน่งต่าง ๆ แล้วต้องการสร้างรัฐบาลที่มีความชอบธรรมมากกว่า ขอเรียกร้องให้หลายพรรคที่จะมีการประชุมวันนี้ อยากให้มีมติออกมาว่าประกาศถอนตัวการร่วมรัฐบาลเช่นเดียวกัน” นายณัฐพงษ์ กล่าว
ส่วนกรณีที่ยุบสภาแล้ว จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับการเลือกตั้งปี 2557 ที่ทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่นั้น คิดว่าบริบทตอนนี้กับตอนนั้นต่างกัน สำหรับพรรคประชาชนในตอนนี้ เราไม่มีทางที่จะคัดค้านการเลือกตั้งแน่นอน ดังนั้นถ้าเมื่อไรก็ตามที่มีการประกาศยุบสภาฯ คงไม่ได้เห็นการแสดงออกของพรรคประชาชนแน่นอน และยืนยันจะเดินหน้ามุ่งสู่การเลือกตั้ง นำเสนอนโยบายต่อพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด และเดินหน้ากระบวนการในการตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีความชอบธรรมสูงให้เกิดขึ้นเร็ว ๆ มากกว่า
โดยระบุว่า หากวันนี้มีการประกาศยุบสภา พรรคประชาชน ก็พร้อมเลือกตั้งทันที โดยเฉพาะนโยบายที่พรรคได้สะสมมา ซึ่งมีชุดกฎหมายอีกหลายชุด ที่เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า หากเราได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ภายใต้การประชุมสภาสมัยแรก พรรคประชาชน พร้อมที่จะผลักดันกฎหมายทุกฉบับ
อย่างไรก็ดี ยอมรับว่า การยุบสภา อาจมีผลกระทบอยู่บ้างต่อร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาฯ แต่ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญนั้น หากสภาฯ ไม่สามารถผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ได้ ก็สามารถใช้งบประมาณเดิมไปก่อนได้
ส่วนความกังวลหากยุบสภา จะทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองนั้น หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า รัฐบาลรักษาการ ยังมีอำนาจรักษาการในการบริหารประเทศ แต่ไม่สามารถสร้างงบประมาณผูกพันได้ ดังนั้นแม้จะยุบสภาแล้ว รัฐบาลรักษาการก็ยังสามารถใช้กลไกในระบบราชการปัจจุบันในการแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นได้อยู่
“ไม่ใช่ว่าการยุบสภา จะทำให้เกิดสุญญากาศแต่อย่างใด และคิดว่าสิ่งที่ทำให้เกิดสุญญากาศ คือการขาดความเชื่อมั่นของประเทศ ในภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีมากกว่า” นายณัฐพงษ์ ระบุ
นายณัฐพงษ์ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า ต้องจับตาประชุมของพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคในวันนี้ ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร หากพรรคเพื่อไทยสามารถคุมเสียงข้างมากได้อยู่ สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอน คือ ความเชื่อมั่นศรัทธาของพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่เสื่อมลงเรื่อย ๆ และพรรคประชาชน ก็พร้อมที่จะใช้กลไกทุกอย่าง เช่น การลงมติในทุกเวที เพื่อที่จะกดดันให้นายกรัฐมนตรียุบสภาโดยเร็ว
- “ไทยสร้างไทย” ออกแถลงการณ์ จี้ “แพทองธาร” ลาออกจากนายกฯ
พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ออกแถลงการณ์ เรื่อง ขอให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบด้วยการ “ลาออก” จากตำแหน่ง โดยระบุว่า จากการที่ปรากฏคลิปเสียง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สนทนาทางโทรศัพท์กับสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งได้ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ โดยเฉพาะต่ออธิปไตยแห่งราชอาณาจักรไทย กระทบเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของประเทศ และกองทัพไทย โดยได้ระบุว่า “แม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝั่งตรงข้ามกับเรา” ทั้งที่กองทัพได้ทำหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของประเทศอย่างเต็มที่ แต่นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย กลับมากล่าวหาแม่ทัพแห่งกองทัพไทยว่าเป็นคนของฝั่งตรงข้าม แสดงให้เห็นถึงการไร้ภาวะผู้นำ และขาดวุฒิภาวะทางการเมืองของนายก ฯ จนสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง
พรรคไทยสร้างไทย เห็นว่าสมควรที่ น.ส.แพทองธาร ต้องรับผิดชอบทางการเมือง ด้วยการ “ลาออก” จากตำแหน่งนายกฯ เพื่อแสดงสปิริตเยี่ยงนักการเมืองที่ดี และต้องไม่ใช้อำนาจ หรือกระทำการใด ๆ ที่กระทบต่อสภาผู้แทนราษฎร หรือหน่วยงาน หรือบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้อง
อนึ่ง พรรคไทยสร้างไทย ขอเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาล เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก เพื่อปกปักรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิและผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ใช่ประโยชน์ของกลุ่มตระกูลใดหรือบุคคลใด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มิ.ย. 68)