ภาษีทรัมป์พ่นพิษ! Citi หั่น GDP ปี 68 เหลือโต 2.2% ปี 69 โต 2.0%

Citi Research หั่นคาดการณ์ GDP ไทยในปี 2568 เหลือ 2.2% จาก 3.0% หลังภาคการส่งออก และภาคการผลิต ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การค้าโลกผันผวน ขณะที่การบริโภคภาคเอกชน ยังอ่อนแรงจากหนี้ครัวเรือน ภาคท่องเที่ยวมีความเสี่ยงขาลงจากเศรษฐกิจโลกชะลอ และนักท่องเที่ยวจีนลด พร้อมคาด กนง. ลดดอกเบี้ยอีกครั้ง ต.ค.68 เหลือ 1.50% หนุนเศรษฐกิจภายใต้เงินเฟ้อต่ำ

นายทาริก อาเหม็ด ข่าน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการขายและโซลูชันภาคองค์กรประจำประเทศไทยและเวียดนาม ธนาคารซิตี้แบงก์ประเทศไทย กล่าวว่า ซิตี้ รีเสิร์ช (Citi Research) ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ประเทศไทย ปี 2568 เหลือโต 2.2% และคาดการณ์ GDP ปี 2569 เหลือ 2.0% จากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา และมาตรการขึ้นภาษีตอบโต้ของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก ที่คาดว่าจะกระทบต่อภาคการส่งออก และการผลิตของประเทศไทย ซึ่งกำลังเผชิญปัญหาด้านความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง

ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การค้าโลก และการที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าตอบโต้ไทยในอัตรา 36% แม้จะมีการชะลอขึ้นภาษี 90 วัน สร้างความไม่แน่นอนว่า ไทยจะยังคงได้รับประโยชน์จากการกระจายตัวของห่วงโซ่อุปทานโลกหรือไม่ ด้วยเหตุนี้ Citi จึงปรับลดคาดการณ์การลงทุนภาคเอกชน เนื่องจากหลายโครงการที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุน ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในปี 2566-2567 อาจเกิดการล่าช้า

ด้านการบริโภคภาคเอกชน ยังคงอ่อนแอจากระดับหนี้ครัวเรือนสูง แม้ภาครัฐจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการ Digital Wallet และการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำช่วงต้นปี 2568 โดยกลุ่มครัวเรือนรายได้ปานกลางถึงสูง ยังคงพยุงการใช้จ่ายผู้บริโภคในช่วงที่ผ่านมา แต่เริ่มชะลอตัวลงด้วยผลกระทบด้านลบต่อความมั่งคั่ง (negative wealth effect) จากความผันผวนของตลาดหุ้น รวมถึงครัวเรือนบางส่วนอาจมีภาระการเงินเพิ่มขึ้นจากการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเมียนมาเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา

ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังคงมีแนวโน้มที่ดี โดย Citi ยังคงคาดว่าปีนี้ประเทศไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 39.8 ล้านคน และเพิ่มเป็น 43 ล้านคนในปี 2569 แต่มีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนลดลง จากความกังวลด้านความปลอดภัยในประเทศไทย

สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐยังคงได้รับการสนับสนุน แต่การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ยังมีข้อจำกัด หากรัฐบาลไม่ยกเพดานหนี้ที่ 70% ของ GDP จึงคาดว่าจะมีการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐในปี 2568 จากงบประมาณเหลือจ่ายจากปีก่อนหน้า รวมถึงมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดเล็กเพิ่มเติม และจากการที่อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มต่ำกว่ากรอบเป้าหมายต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 Citi ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปี 2568 เหลือ 0.6% และอัตราเงินเฟ้อปี 2569 ที่ 1.2% โดยมีความเสี่ยงขาลงจากการลดลงของราคาสินค้าและพลังงาน เช่น ไฟฟ้า ราคาน้ำมัน และสินค้านำเข้าจากประเทศจีน

“ซิตี้ รีเสิร์ช คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีกครั้งในเดือนต.ค.68 เหลือ 1.50% ทำให้นโยบายการเงินผ่อนคลายลงเล็กน้อย และอาจลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีกครั้งช่วงต้นปี 2569 แต่แนวโน้มที่ ธปท. จะใช้ค่าเงินบาทที่อ่อนลงเป็นกลไกดูดซับแรงกระแทกจากปัจจัยภายนอก อาจเผชิญความท้าทาย จากการที่ไทยยังไม่สามารถนำดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลมาใช้หมุนเวียนภายในประเทศได้เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่ประเทศไทยอาจถูกจับตามองจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ว่ามีพฤติกรรมบิดเบือนค่าเงิน” นายทาริก กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (08 พ.ค. 68)

Tags: , , , , , , , , ,