มองมุมต่าง: MEDEZE กับ “ดีลใหญ่” ปริศนาการซื้อหุ้น Cordlife แค่ 10% ที่รอวันเฉลย

การที่ บมจ.เมดีซ กรุ๊ป [MEDEZE] ประกาศทำดีลเข้าซื้อหุ้น Cordlife Group Limited ผู้ให้บริการตรวจวิเคราะห์ และจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดชั้นนำของภูมิภาค ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX) โดยดำเนินการผ่าน Medeze Treasury Pte. Ltd. เพียงแค่ 10% เท่านั้น ในลักษณะของการเสนอซื้อหลักทรัพย์บางส่วนแบบมีเงื่อนไขและชำระด้วยเงินสด (Partial Offer) คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 165 ล้านบาทนั้น

หากดูจากสายตลาดของผู้ลงทุนทั่วไป ดูแล้วเหมือนเป็นลักษณะของการซื้อ “แบบไม่จริงจัง” และไม่น่าจะทำให้ผลประกอบการของ MEDEZE ดีขึ้นมากนัก เพราะเม็ดเงินลงทุนค่อนข้างน้อย

แถมยังมีการขีดเส้นให้ระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อในครั้งนี้แล้วเสร็จภายในไม่เกิน 3 เดือนนับจากวันประกาศ ยิ่งทำให้คนนอกมองเข้าไปแล้วดูเหมือนดีลนี้ “ไม่มีอะไร” และเป็นเรื่องที่ยากพอสมควรที่จะทำให้บรรลุเป้าหมาย

เนื่องจาก ลักษณะการทำ Partial offer หรือ Partial Tender Offer หมายถึง การทำคำเสนอซื้อหุ้นบางส่วน โดยจะขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อกิจการทั้งหมด หากอธิบาย เป็นภาษาที่ง่ายขึ้น ก็คือ ต้องการซื้อหุ้นแค่บางส่วนเท่านั้น ไม่ได้ต้องการซื้อหุ้นทั้งหมด

ยกตัวอย่าง สมมุติสภาพคล่อง (Free float) มีอยู่แค่ 50% แต่คุณมีเงินจะซื้อหุ้นเพียงแค่ 10% หรือ คุณจะซื้อแค่ 10% เพราะไม่อยากจะข้าม 24.99% เพื่อจะได้ไม่ต้องทำ tender offer ซื้อหุ้นทั้งหมด (100%)

ในอีกกรณี หากมีหุ้นอยู่แล้วอยากถือหุ้นเพิ่ม แต่ต้องการป้องกันไม่ให้ถือเกิน 24.99% หรือ 51% หรือ 75% ซึ่งเป็นจุดที่ถ้าถือหุ้นเกินแล้วต้องซื้อหุ้นทั้งบริษัท ประกอบกับอาจจะไม่ต้องการให้สภาพคล่อง (Free Float) หายไปจากตลาด ก็ทำการเสนอซื้อหุ้นบางส่วนได้

หรือ บางกรณี หากต้องการซื้อแค่ 10% แต่บังเอิญมีคนมายื่นเสนอขายให้ 30% ก็จะใช้วิธีการเฉลี่ย Pro rata แทนได้

กรณีของ MEDEZE ก็ไม่เคยถือหุ้นอยู่ใน Cordlife มาก่อน ฉะนั้นการประกาศซื้อหุ้น 10% อาจจะทำให้ถูกมองว่า ทำเพื่อ…!??

และ เมื่อดูจากสภาพคล่องของหุ้น Cordlife ที่เทรดอยู่ในตลาดหุ้นสิงคโปร์ ถือว่าเป็นหุ้นที่สภาพคล่องค่อนข้างต่ำ บางวันไม่มีการซื้อขายเลย การจะประกาศซื้อจากผู้ถือหุ้นรายย่อย คงดูท่าจะยาก แม้จะให้ราคาสูงกว่าราคาวันประกาศถึง 61% ก็ตาม

ความน่าจะเป็นในการบรรลุดีลการทำ Partial Offer เหมือนอาจจะมีความหวังไม่มาก เพราะไม่มีองค์ประกอบใดที่จะสนับสนุน ทั้งในแง่ของเงื่อนไขการซื้อหุ้นจากรายย่อยในสภาวะที่หุ้นมีสภาพคล่องต่ำ รวมถึง ไม่ได้มีเงื่อนไขที่สองจากผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สัญญาว่าจะขายหุ้นให้แทน หากไม่มีรายย่อยมาเสนอขายหุ้นให้

จะเรียกว่า ประตูของที่นั่งในการเข้าร่วมบริหาร Cordlife ก็คงไม่ได้เปิดให้เข้าไปได้อย่างง่ายดายนัก

สรุป เป้าหมายของ MEDEZE ในการทำ Partail Offer หุ้น Cordlife 10% จากรายย่อยคงไม่ได้ง่าย

แต่หากมองลึกลงไป ก็จะพบข้อดีของการทำดีลแบบนี้ แม้อาจจะไม่สำเร็จก็ได้ แต่อย่างน้อย Cordlife ก็รู้จักและอ่านประวัติไฟลิ่งของ MEDEZE ไปเรียบร้อยแล้ว โดยเราได้เห็นการแถลงข่าวร่วมกันของผู้บริหารทั้งสองบริษัทในช่วงที่ผ่านมา แม้ในวันแถลงข่าวร่วม ทาง Cordlife จะไม่สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกได้ เนื่องจากเป็น Listed Company ใน SGX และอยู่ระหว่างการทำดีล

นี่แหละ คือ ความพิเศษสุดของดีลนี้ และเผลอๆ MEDEZE อาจจะไม่ต้องใช้เงินสักบาทในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Cordlife ที่ดำเนินธุรกิจ Stem Cell มานานกว่า 20 ปี ซึ่งโอกาสทางธุรกิจระหว่าง MEDEZE กับ Cordlife สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม และผลประโยชน์ร่วมกันในระยะยาว

หากมีการร่วมมือกันเกิดขึ้นจริงในอนาคต ทั้งสอง จะสามารถให้บริการแก่ลูกค้าของกันและกัน ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางการตลาดและเครือข่ายให้เพิ่มมากขึ้น โดยฝั่งของ MEDEZE สามารถเสนอบริการวิเคราะห์และจัดเก็บเซลล์ NK และการบริการฝากรากผมให้กับลูกค้าของ Cordlife (หากได้รับอนุญาต) ในทางกลับกัน Cordlife สามารถเสนอบริการวิเคราะห์และคัดกรองโครโมโซมและพันธุกรรมให้กับลูกค้าของ MEDEZE ได้

ความร่วมมือนี้สามารถสนับสนุนการเติบโตของทั้ง MEDEZE และ Cordlife ในระดับนานาชาติต่อไป

ในอนาคตอีกไม่เกิน 3 เดือนข้างหน้า แม้ดีล Partail Offer อาจจะไม่สำเร็จ แต่ถ้าสามารถเป็นพันธมิตรกับ Cordlife ได้ถือว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งเคสที่น่าสนใจในการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายใดๆ

เหมือน “ไปเคาะประตู เรียกเจ้าของบ้านออกมาดู”

ถือเป็นความหลักแหลมของ คนที่วางแผนดีลนี้จริงๆ

ธิติ ภัทรยลรดี

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 พ.ค. 68)

Tags: , , ,