รมว. คลัง เตรียมหารือแบงก์รัฐพรุ่งนี้ ถกมาตรการช่วยกลุ่มส่งออก-SME จากมาตรการภาษี “ทรัมป์”

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงการนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล เนื่องจากครั้งนี้มีหลายเรื่องต้องทบทวนมาตรการสิ่งไหนควรทำและยังไม่ควรทำ รวมถึงโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 และตอนนี้กำลังทำการบ้านอยู่ โดยในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค.) จะหารือกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFI) เพื่อหามาตรการช่วยเหลือกลุ่มผู้ส่งออก SME และ ซัพพลายเชน

ส่วนจำเป็นต้องให้งบประมาณปี 69 เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ วาระ 1 ก่อนหรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในงบฯ ปี 68 หากปรับได้ก็ปรับ ส่วนในปี 69 หากเขาปรับในสภาฯ ได้ก็ว่ากันไป แต่สุดท้ายแล้วประเทศไทยต้องการการวางแผนที่ดีในระยะกลางและระยะยาว ส่วนจะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ จะกู้หรือไม่ หรือจะจ่ายหรือไม่ ก็ต้องทบทวนอีกครั้งหนึ่ง

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า เร็ว ๆ นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งจะมีการหารือเกี่ยวกับปัจจัยท้าทายทางเศรษฐกิจในขณะนี้ โดยเฉพาะเรื่องนโยบายการค้าโลก ที่ถือเป็นปัจจัยภายนอกที่รัฐบาลเองก็ควบคุมไม่ได้ ดังนั้นจะต้องนำมาเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการบริหารงานในมิติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือการใช้งบประมาณ เพื่อให้การใช้งบประมาณทุกบาททุกสตางค์เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในเรื่องการบริหารจัดการเศรษฐกิจในภาพรวมต่าง ๆ

ทั้งนี้ ในการบริหารระบบเศรษฐกิจของรัฐบาลจะต้องพิจารณาในภาพใหญ่ ทั้งแง่การบริโภค การลงทุน การส่งออก การบริหารความเสี่ยง การกระตุ้นการลงทุนภาครัฐ ต่าง ๆ เหล่านี้จะต้องทำให้กลมกล่อมในหลายมิติ ซึ่งทั้งหมดจะถูกเอาไปวางไว้บนโต๊ะในการประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อที่จะหาข้อสรุปที่ดีที่สุด ตรงและสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันมากที่สุด

สำหรับกรณีที่หลายฝ่ายจับตามองว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 จะได้ไปต่อหรือไม่นั้น รมช.คลัง ระบุว่า เรื่องนี้คงตอบแทนที่ประชุมฯ ไม่ได้ โดยในหลักการจะต้องมีการเอาข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องมาหารือกัน เริ่มจากการประเมินสถานการณ์ โดยเฉพาะนโยบายทางการค้าว่าสรุปแล้วจะเป็นอย่างไร จะกระทบกับประเทศไทยแค่ไหน สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือสถานการณ์วันนี้กับวันข้างหน้าไม่เหมือนกัน ดังนั้นทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับความแม่นยำในการประเมินสถานการณ์ที่ต้องทำให้ใกล้เคียงมากที่สุด และดีที่สุด เพื่อที่จะเลือกเครื่องมือทางการคลังและการเงินให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากที่สุด

“อย่างที่ทราบว่าปัจจุบรรทุกประเทศทั่วโลกก็เจอผลกระทบจากปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ นั่นคือเรื่องนโยบายทางการค้า ที่แม้จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากมิติของความผ่อนคลาย แต่นั่นไม่ใช่ความแน่นอนทั้งหมด ตรงนี้ยังเป็นปัจจัยท้าทายที่รัฐบาลยังต้องระมัดระวังมากขึ้น และไม่เคยประมาท โดยรัฐบาลยืนยันว่าจะใช้งบประมาณทุกบาททุกสตางค์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด ผ่นการหารือในทุกมิติของนโยบาย มิติของมาตรการ และมิติของงบประมาณ ส่วนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น อยากให้รอข้อสรุปที่ชัดเจนจากที่ประชุมฯ จะดีกว่า เพราะจะต้องมีการพิจารณาถึงภาพรวมในเชิงงบประมาณและตัวโครงการด้วย โดยต้องดูในภาพใหญ่เป็นหลัก ไม่อยากให้เจาะเป็นรายโครงการ” นายเผ่าภูมิ กล่าว

ส่วนกรณีความเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ระบุว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน การใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการกระตุ้นการบริโภคอาจจะไม่เหมาะสม เนื่องจากกระสุนทางการคลังมีจำกัดนั้น มองว่า รัฐบาลไม่อยากบอกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนเป็นอย่างเดียวที่สำคัญกับประเทศ แต่การบริหารจัดการนโยบายด้านเศรษฐกิจจะต้องทำให้กลมกล่อม ดังนั้นคงไม่บอกว่างบประมาณทั้งหมดจะต้องถูกทุ่มไปกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเท่านั้น หากเป็นอย่างนี้ถือว่าไม่กลมกลม

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่าในส่วนการเจรจากับสหรัฐฯ นั้น จะต้องทำในช่วงจังหวะที่เหมาะสมและเข้ากับสถานการณ์มากที่สุด โดยระหว่างนี้รัฐบาลได้ทำงานอย่างเต็มที่ ยืนยันว่ารัฐบาลมียุทธศาสตร์ในการเจรจา ผ่านกระบวนการพิจารณาเรื่องเงื่อนไขการเจรจา สิ่งที่เรามีอยู่ในมือ สิ่งที่เราควรจะให้ สิ่งที่เราควรรักษาไว้ และสิ่งที่เราควรจะเอาไปหารือ ทั้งหมดมีการพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อหาจุดลงตัวที่สุด บนพื้นฐานการเจรจาที่จะต้องรักษาผลประโยชน์ของประเทศสูงสุด จะต้องทำให้ประเทศไทยสามารถผ่านสถานการณ์นี้ไปได้อย่างดีที่สุด บนผลประโยชน์สูงสุดของประเทศ

“จะเห็นว่ารัฐบาลไทยไม่ได้เป็นประเทศแรก ๆ ที่กระโดดเข้าไปในเกมนี้ แต่รัฐบาลใช้ความกลมกล่อม ใช้ความรอบคอบ ใช้ความระมัดระวังและใช้การบริหารสถานการณ์อย่างมียุทธศาสตร์อย่างดีที่สุด” นายเผ่าภูมิ กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 พ.ค. 68)

Tags: , , , ,