รัฐตั้งเป้าปั้นเชฟอาหารไทย 17,000 คนทั่วประเทศหนุนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์

น.ส.ณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมฯ เล็งเห็นความสำคัญในการส่งเสริมและยกระดับอาหารไทย รวมถึงเชฟอาหารไทยระดับชุมชนให้มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล เนื่องจากไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมที่เป็นแหล่งวัตถุดิบอาหารที่สำคัญหลายชนิดจนได้รับขนานนามว่าเป็นครัวของโลก

ขณะเดียวกันอาหารไทยยังเป็นซอฟต์พาวเวอร์สำคัญที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมาอย่างยาวนาน เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาเยือนประเทศไทยเพิ่มขึ้นทุกปี มียอดค่าใช้จ่ายด้านอาหารมีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 2 ของการใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยวทั้งหมด

ดังนั้น ปีนี้กรมฯ ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายภายใต้คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์จะเดินหน้ายกระดับและสานต่อความสำเร็จใน 2 โครงการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ได้แก่

  1. โครงการยกระดับหนึ่งหมู่บ้านหนึ่งเชฟอาหารไทย เป็นการมุ่งพัฒนาองค์ความรู้และทักษะด้านอาหารไทยแก่ประชาชนที่สนใจให้เป็นแรงงานทักษะสูง โดยมีหลักสูตรที่ทันสมัยและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ต่อยอดในการประกอบอาชีพได้เป็นอย่างดี อาทิ อาหารไทยต้นตำรับเพื่อการประกอบอาชีพ อาหารไทยสร้างสรรค์เพื่อสุขภาพขนมหวานไทยประยุกต์ อาหารไทย Street Food พร้อมขายออนไลน์ ฟิวชั่นอาหารไทยกับรสชาติสากล ซึ่งผู้เข้าอบรมจะได้รับการทดสอบความรู้ตามเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพและได้รับใบรับรองจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพสาขาอาหาร และสามารถนำความรู้ไปต่อยอดประกอบอาชีพเป็นเชฟต่อไป โดยตั้งเป้าปั้นเชฟอาหารไทยมืออาชีพจำนวน 17,000 คนทั่วประเทศ และคาดว่าจะเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 3,036 ล้านบาท
  2. โครงการพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นไทย (Local Chef Restaurant) โดยเน้นการพัฒนาศักยภาพร้านอาหารชุมชนด้วยการเพิ่มทักษะและองค์ความรู้ในด้านต่าง ๆ อาทิ การคำนวณต้นทุนการบริหารจัดการของเสีย เทคนิคการประกอบอาหารและสร้างสรรค์เมนูใหม่เพื่อนักท่องเที่ยว (เมนูอาหารถิ่น Amazing Thai Taste) นอกจากนี้ยังยกระดับร้านอาหารเชฟชุมชนสู่ร้านอาหารระดับพรีเมียม การเตรียมความพร้อมร้านอาหารซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่สากล การเชื่อมโยงสู่เทคโนโลยีเพิ่มช่องทางการตลาด ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นร้านอาหารเชฟชุมชน อาหารถิ่นไทยแบบมืออาชีพ อันจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติและนำไปสู่การสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าพัฒนาร้านอาหารเชฟชุมชนจำนวน 100 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะเกิดจ้างงานและใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นกว่า 120 ล้านบาท และเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 336 ล้านบาท

สำหรับการดำเนินงานขับเคลื่อนและผลักดันซอฟต์พาวเวอร์อุตสาหกรรมอาหารทั้ง 2 โครงการนี้ กรมฯ ได้นำกลไกของ Soft Power มาเป็นเครื่องมือในการสร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าที่โดดเด่นแตกต่าง และตอบโจทย์ตลาด ภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้” ผ่านกลยุทธ์ 4 ให้ ได้แก่

  1. ให้ทักษะใหม่ : ผ่านการอบรมเพื่อเพิ่มพูนองค์ความรู้ พัฒนาเป็นอาชีพและต่อยอดสู่ธุรกิจ
  2. ให้เครื่องมือทันสมัย : เสริมศักยภาพด้วยเครื่องมือที่จะช่วยในการแปรรูปและเพิ่มมูลค่าสินค้า
  3. ให้โอกาสโตไกล : เข้าถึงตลาด ช่องทางจัดจำหน่าย และการเข้าถึงแหล่งทุน
  4. ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน : สร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการชุมชน และหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน

ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ รมว.อุตสาหกรรม ที่มุ่งสร้างโอกาส สร้างรายได้ และเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทย พร้อมทั้งช่วยผลักดันซอฟต์พาวเวอร์สาขาอาหาร ตามกลไก OFOS (One Family One Soft Power) ของรัฐบาลได้อย่างก้าวหน้าและครบทุกมิติ

“การขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์สาขาอาหารจะสามารถพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมอาหารไทยในหลากหลายมิติ และเป็นอีกหนึ่งพลัง Soft Power อาหารไทยผ่านการนำวัตถุดิบพื้นถิ่น มารังสรรค์เมนู บอกเล่าคุณค่าและเรื่องราว (Story Telling) ด้วยการโน้มน้าวและเผยแพร่ความมีเสน่ห์ของอาหารไทยให้เป็นที่รู้จัก เกิดการยอมรับในระดับนานาชาติ รวมถึงทูตวัฒนธรรมด้านอาหารที่สามารถถ่ายทอดรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกผ่านการท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการสร้างงานและกระจายรายได้ในพื้นที่” น.ส.ณัฏฐิญา กล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มิ.ย. 68)

Tags: , , ,