นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวในกรอบ โดยต่างประเทศยังคงไม่มีปัจจัยใหม่ สถานการณ์ในะตะวันออกกลางยังตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดประธานาธิบดีสหรัฐได้ออกมาเรียกร้องให้อิหร่านยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งอาจกดดันสถานการณ์ให้แย่ลงไปอีก และกระทบตลาดหุ้นต่อไป
ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังต้องติดตามสถานการณ์การเมืองต่อ โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าจะมีความชัดเจนออกมาอย่างไร ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดมาเช้าวันนี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวกและลบสลับกัน
โดยให้แนวต้าน 1,130 จุด และแนวรับ 1,100 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (17 มิ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,215.80 จุด ลดลง 299.29 จุด หรือ -0.70%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,982.72 จุด ลดลง 50.39 จุด หรือ -0.84% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,521.09 จุด ลดลง 180.12 จุด หรือ -0.91%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 38,364.16 จุด ลดลง 172.58 จุด หรือ -0.45%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,386.14 จุด ลดลง 1.26 จุด หรือ -0.04% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 23,859.55 จุด ลดลง 120.75 จุด หรือ -0.50%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 มิ.ย.) 1,113.58 จุด ลดลง 0.91 จุด (-0.08%) มูลค่าซื้อขาย 27,531.25 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (17 มิ.ย.) 611.23 ล้านบาท
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. (17 มิ.ย.)เพิ่มขึ้น 3.07 ดอลลาร์ หรือ 4.28% ปิดที่ 74.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด ( 17 มิ.ย.)
– เงินบาทเปิด 32.60 อ่อนค่าเล็กน้อย ตลาดจับตาสงครามอิหร่าน-อิสราเอลและผลประชุมเฟด
– พท.ขีดเส้นตาย บ่าย 3 วันที่ 19 มิ.ย.นี้ ‘ภูมิใจไทย’ ต้องให้คำตอบจะคืนเก้าอี้มหาดไทยหรือไม่ แลก สธ.-รมต.สำนักนายกฯ ถ้าเมินรับเงื่อนไขพร้อมเขี่ยไปเป็นฝ่ายค้าน ยันเช็กเสียงแล้วมั่นใจรัฐบาลยังไปต่อได้ เชื่อ รทสช.ไม่ชิ่งหนี แถมมีงูเห่าฝ่ายค้านมาเติม ‘อนุทิน’อ้อน ‘นายกฯอิ๊งค์’ช่วยคุ้มครองถูกแกล้งคดีฮั้วเลือก ส.ว.
– “คลัง” แนะ 4 ข้อเสนอ “แบงก์ชาติ” หนุนนโยบายการเงินการคลังมากขึ้น กระทุ้งเงินเฟ้อให้เข้ากรอบ ดูแลอัตราแลกเปลี่ยน เร่งอัดฉีดสินเชื่อ-สภาพคล่องเข้าระบบ ปัดสั่งการแทรกแซง “พิชัย” จ่อชงบอร์ดกระตุ้น ศก.เคาะงบแสนล้าน แย้ม เริ่มเจรจาภาษีทรัมป์ ยื่นข้อเสนอทางการสัปดาห์นี้ ครม.ไฟเขียวไทยเสนอตัวเจ้าภาพจัด “F1” 5 ปี วงเงิน 4 หมื่นล้าน “สตง.” ทำหนังสือด่วนถึง “อธิบดี สถ.” เตือนเร่งของบใน 3 วัน เปิดช่องเรียกรับผลประโยชน์
– “คลัง” เตรียมชงบอร์ดอีวีปรับเงื่อนไขให้สรรพสามิตระงับสิทธิจ่ายเงินสมทบให้ค่ายรถที่ผลิตชดเชยไม่ทันตามแผนเกิน 2 เดือน มุ่งจำกัดความเสียหาย เผยชะลอจ่ายเงินสมทบ “เนต้า” หากผลิตไม่ทันตามแผนจะต้องจ่ายคืน เงินอุดหนุนและจ่ายภาษีปรับ
– บอร์ดไตรภาคีเคาะแล้ว ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่ว กทม. ส่วนจังหวัดอื่นเฉพาะกลุ่มโรงแรม-สถานบริการ คาดแรงงานได้อานิสงส์ราว 7 แสนคน จ่อชง ครม.ไฟเขียว เริ่ม 1 ก.ค.68
– ครม.อนุมัติรวมโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง-สีแดงอ่อน เป็นโครงการ “ช่วงศิริราช-ตลิ่งชัน-ศาลายา” จัดซื้อจัดจ้าง ให้เป็นสัญญาเดียว ช่วยประหยัดงบลดลง 1,671 ล้านบาท ตั้งเป้าประมูลปีนี้ เริ่มสร้างทันที ม.ค.69
– รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งว่าขณะนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เปิดให้ผู้ประกอบการเริ่มลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.และภายในสัปดาห์หน้าจะเปิดให้ประชาชนที่ต้องการใช้สิทธิลงทะเบียน ส่วนเงินที่จะดำเนินโครงการนี้จะต้องรอผ่านคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจและเข้าครม.ก่อน แต่เพื่อให้โครงการไม่สะดุดจึงให้เริ่มลงทะเบียนเมื่อได้เงินมาจะเริ่มโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.68
– ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางอย่างต่อเนื่อง และการบริหารสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้เกิดประสิทธิภาพ จึงมีมติปรับลดอัตราเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เชื้อเพลิงสำหรับน้ำมันดีเซลลงอีก 50 สตางค์/ลิตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย.2568 เป็นต้นไป
– ครม.อนุมัติหลักเกณฑ์ “ซื้อหุ้นคืน” ของบริษัทจดทะเบียน(บจ.) เผยไม่ต้องมีระยะเวลาพักคอย 6 เดือนหลังซื้อหุ้นคืนเสร็จและต้องการซื้อหุ้นคืนใหม่ พร้อมขยายระยะเวลาการขายหุ้นคืนจาก 3 ปี เป็น 6 ปี ด้าน “ศ.พิเศษ กิติพงศ์” ประธานตลาดหลักทรัพย์ มั่นใจส่งผลดีต่อ บจ.และคาดจะมี บจ.เข้ามาซื้อหุ้นคืนมากขึ้น ขณะที่ รมว.คลัง ชงโครงการภาครัฐวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท เข้าบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจวันนี้ ส่วนเรื่องภาษีการค้ากับสหรัฐฯ อยู่ระหว่างการเจรจาทางเทคนิค คาดบินไปหารือทางการเร็วๆ นี้
หุ้นเด่นวันนี้
– PRTR (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 6.30 บาท คณะกรรมการค่าจ้างมีมติเห็นชอบปรับขึ้นค่าแรงในพื้นที่ กทม.เป็นขั้นต่ำ 400 บาท ส่วนต่างจังหวัดปรับค่าแรงเฉพาะกิจการโรงแรม 2 ดาวขึ้นไป เป็นบวกต่อธุรกิจจัดหา Outsource
แนวโน้มกำไรของ PRTR เติบโตดี ผสานกระแสเงินสดสูง ขณะที่ราคาหุ้นเทรดเพียง PE 6.9 เท่า และคาดอัตราจ่ายปันผลสูงราว 9.4%
– PTTEP (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 120.00 บาท ได้รับ sentiment บวกจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น 4% เมื่อคืน เป็นผลจากความตึงเครียดในตะวันออกกลางหลังอิสราเอล-อิหร่านเปิดฉากโจมตีใส่กันเป็นวันที่ 5 นอกจากนี้สหรัฐยังเสริมฝูงเครื่องบินขับไล่เข้ามาในภูมิภาค พร้อมข่มขู่ประชนชนในกรุงเตระราน รวมถึงขู่สังหารผู้นำสูงสุดของอิหร่านอีกด้วย
– CKP (ฟินันเซียไซรัส) “ซื้อสะสม” เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิ Q2/68 ที่ 803 ลบ. เพิ่มขึ้นอย่งมีนัยสำคัญทั้ง q-q, y-y จากกำลังผลิตไฟฟ้าเขื่อนที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและสูงกว่าปีก่อน และมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญจาก FX gain ที่เกิดจากหนี้ดอลลาร์ค่าเงินบาทแข็ง แนวโน้ม Q3/68 เป็น Peak Season คงคาดกำไรสุทธิปี 68 +11% y-y ราคาหุ้นลงมาลึกเกิน NAV ที่ 3.40 บาทหลังถูกนำออกจาก SET100 แต่จะเป็นโอกาสซื้อสะสม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มิ.ย. 68)