อุปสงค์แผ่ว-ราคาพลังงานลด กดดัน “เงินเฟ้อไทย” แนวโน้มอ่อนแรง

Krungthai COMPASS ประเมินว่า ทิศทางเงินเฟ้อของไทยระยะข้างหน้า ยังมีโมเมนตัมอ่อนแรง ปัจจัยหลักจากอุปสงค์ภายในประเทศ ซึ่งมีสัญญาณแผ่วลง และทิศทางราคาพลังงานที่ลดลง โดยอุปสงค์ในประเทศยังเปราะบาง สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) เดือนเม.ย.68 ซึ่งลดลงมาอยู่ที่ 48.8 จาก 50.8 ในเดือนก่อนหน้า แสดงถึงความไม่เชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจระยะข้างหน้า ซึ่งจะกดดันให้อุปสงค์ภายในประเทศมีแนวโน้มแผ่วลง

ด้านแรงกดดันจากต้นทุนการผลิตสินค้า มีแนวโน้มลดลงตามรายจ่ายด้านพลังงานของผู้ประกอบการที่มีทิศทางปรับตัวลง ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค.68 ลดลง -3.69% (YoY) โดยติดลบมากขึ้นจากเดือนก่อน (-3.16%) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากต้นทุนพลังงานที่แผ่วลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก จากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ดัชนีราคาผู้ผลิต ซึ่งมีแนวโน้มอ่อนแรงลงดังกล่าว จะช่วยลดแรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปทาน

นอกจากนี้ ดัชนีราคาสินค้านำเข้าเดือน เม.ย.68 หดตัว -0.97% (YoY) ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการแข็งค่าของเงินบาท ตามการปรับลดสัดส่วนการถือครองดอลลาร์สหรัฐฯ ของนักลงทุน สวนทางกับสกุลเงินตลาดเกิดใหม่ รวมถึงภูมิภาคเอเชีย และเงินบาท ซึ่งมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ปัจจัยดังกล่าว เอื้อให้ต้นทุนการนำเข้าถูกลง ทั้งยังมีส่วนช่วยลดทอนรายจ่ายในการผลิตสินค้าและบริการ อันจะช่วยให้เงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ

ขณะเดียวกัน ต้องจับตาความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ที่จะส่งผลต่อการชะลอตัวของอุปสงค์ทั้งในตลาดโลก และไทย และกดดันโมเมนตัมเงินเฟ้อระยะข้างหน้าให้อ่อนแรงลง

ทั้งนี้ มาตรการขึ้นภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ตกอยู่ภายใต้การไต่สวนในกระบวนการยุติธรรม (ยกเว้น sectoral tariff) ขณะที่การไหลทะลักของสินค้าจีน มีแนวโน้มเพิ่มสูงจากสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น ปัจจัยเหล่านี้ ล้วนเพิ่มความเสี่ยงด้านต่ำต่ออัตราเงินเฟ้อของไทย

“ทิศทางเงินเฟ้อของไทยระยะข้างหน้า ยังมีโมเมนตัมที่อ่อนแรง ปัจจัยหลักจากอุปสงค์ภายในประเทศ ซึ่งมีสัญญาณแผ่วลงจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวดลง ทิศทางราคาพลังงานโลก และต้นทุนผลิตสินค้าและบริการภายในประเทศ ที่มีแนวโน้มลดลง” บทวิเคราะห์ระบุ

ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ รายงานอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เดือนพ.ค.68 อยู่ที่ -0.57% ติดลบต่อเนื่องจากเดือนก่อน (เม.ย.68) ซึ่งอยู่ที่ -0.22% เป็นผลจากการลดลงของระดับราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสด โดยเฉพาะกลุ่มผักสด และผลไม้สด ตามปริมาณผลผลิตที่สูงขึ้นจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก และราคาพลังงานที่ต่ำกว่าปีก่อน จากอุปสงค์ในตลาดโลกที่แผ่วลง ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 1.09% ทรงตัวใกล้เคียงเดือนก่อนที่ 0.98%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 มิ.ย. 68)

Tags: , ,