เดินหน้า Entertainment Complex เต็มสูบ! มั่นใจเกิดได้จริงในรัฐบาลเพื่อไทย

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวในงานแถลงข่าว “THAILAND ENTERTAINMENT COMPLEX : มหานครแห่งประสบการณ์ระดับโลก เพื่อคนไทยทุกคน” ว่า ขณะนี้กฎหมาย Entertainment Complex (พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร) ได้ผ่านการยกร่าง และเตรียมจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่ยอมรับว่ายังมีเสียงสะท้อน และข้อห่วงใยจากหลากหลายมิติ ซึ่งรัฐบาลเชื่อมั่นว่าหากมีการเร่งทำความเข้าใจ และสื่อสารให้ครบถ้วน โครงการนี้จะเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายมาร่วมกันได้ โดยกลไกของรัฐสภา คือ การรับฟัง การพูด ซึ่งรัฐบาลชุดนี้มีการรับฟังความเห็นและพร้อมพูดคุย เพื่อสร้างความเข้าใจกับทุกภาคส่วนมาโดยตลอด

“เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกับคนที่เห็นต่างในโครงการนี้ ซึ่งสภาฯ จะเป็นกลไกสำคัญในการรับฟัง และพูดคุยกัน มีหน้าที่ในการเอาความเห็นที่แตกต่างมาเขย่ารวมกัน เพื่อให้เกิดจุดสมดุลที่สุด จุดที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ ทั้งฝ่ายที่สนับสนุนที่อาจจะไม่ได้ทุกอย่าง ส่วนฝ่ายที่คัดค้านก็อาจจะต้องถอยบ้าง เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประเทศได้ เชื่อว่าตรงนี้สภาพร้อมที่จะพูดคุย และรัฐบาลเองก็จะใช้เวทีของสภาฯ ในการทำกฎหมายนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศต่อไป” รมช.คลัง

พร้อมยืนยันว่า นี่ไม่ใช่โครงการครั้งเดียวจบ แต่เป็นการสร้างโอกาสสำคัญในการต่อยอดการท่องเที่ยวไทย ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าจะทำทุกขั้นตอนอย่างโปร่งใส มีกฎหมายรองรับ มีข้อมูลสนับสนุน และมีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า แม้อายุของสภาฯ จะมีเวลาเหลืออีก 2 ปี แต่เชื่อว่าเพียงพอที่จะขับเคลื่อนกฎหมายฉบับนี้ได้ รัฐบาลไม่รู้สึกกังวลว่าสภาฯ จะไม่เห็นด้วย เพราะกฎหมายนี้เสนอโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีเสียงข้างมากมาจากการเลือกตั้ง อย่างไรก็ดี หากในท้ายสุด กฎหมายไม่ผ่านความเห็นชอบ ก็อาจจะต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ต้องยอมรับว่าเป็นการเสียโอกาส และถือเป็นการผลักโอกาสในการสร้างเครื่องยนต์ใหม่ที่จะขับเคลื่อนการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งหากถามความเห็นส่วนตัว ก็อยากให้การดำเนินการในกฎหมาย Entertainment complex แล้วเสร็จภายในรัฐบาลชุดนี้

รมช.คลัง กล่าวว่า โมเดลของโครงการนี้ คือ การเป็น Entertainment Complex ไม่ใช่การทำกาสิโนที่จะมีขึ้นในทุกพื้นที่ หรือในทุกจังหวัดจนเป็นเบี้ยหัวแตก แต่รัฐบาลมีการดึงผู้ประกอบการระดับ TOP ของโลกเข้ามาดำเนินการ นั่นหมายความว่า กฎหมายที่จะควบคุมเรื่องนี้จะต้องศักดิ์สิทธิ์ เพราะบริษัทเหล่านี้ไม่พร้อมที่จะเข้ามาลงทุนในหลักแสนล้านบาทในพื้นที่ที่มีความคลุมเครือแน่นอน

ส่วนกรอบระยะเวลาการดำเนินการนั้น รัฐบาลไม่ได้เร่งรัดแต่อย่างใด แต่ต้องการดำเนินการทุกขั้นตอนอย่างรอบคอบ ทำกฎหมายให้ขาวสะอาด และมีความพร้อมในทุกประเด็น โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นข้อห่วงใยของสังคม ซึ่งกระบวนการในการทำข้อกฎหมายนั้น คาดว่าจะใช้เวลาเป็นปีกว่าจะจบ เพราะกฎหมายจะต้องมีความซับซ้อนมาก ต้องมีการหารือ ปรับแก้ และหลังจากกฎหมายแล้วเสร็จ จะต้องมีการตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมา ตั้งหน่วยงานขึ้นมาทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการในหลายมิติ ก่อนจะออกเป็น TOR โดยเป็นความพยายามที่อยากจะกระบวนการทั้งหมดแล้วเสร็จได้ ภายในรัฐบาลชุดนี้

นายจุลพันธ์ ยังกล่าวถึงพื้นที่ที่จะจัดทำ Entertainment Complex ว่า สุดท้ายรัฐบาลจะเป็นผู้กำหนด เพราะไม่ต้องการให้เอกชนมาแข่งขันกันในเรื่องพื้นที่ เนื่องจากจะทำให้เกิดการได้เปรียบ เสียเปรียบ ไม่เท่าเทียม โดยมองว่าหากรัฐบาลจัดสรรพื้นที่ และให้ผู้ประกอบการที่สนใจมาร่วมประมูลแข่งขัน ด้วยการเสนอโครงการในพื้นที่ที่รัฐกำหนด จะเป็นการแข่งขันที่เป็นธรรมมากกว่า

ส่วนจะมีการจัดตั้ง Entertainment Complex กี่แห่งนั้น ยังไม่ได้มีการหารือถึงข้อสรุป แต่หลังจากที่ได้มีการพูดคุยกับหลายภาคส่วน มีความเป็นไปได้ว่า กฎหมายจะสามารถกำหนดได้ว่าควรจะมีการจำกัดจำนวนโครงการ เพื่อให้เกิดความสบายใจกับทุกฝ่าย

“เรื่องจำนวนแห่ง ที่จะเปิด Entertainment Complex นั้น เท่าที่หารือกับหลายฝ่าย รวมถึงฝ่ายที่คัดค้าน ซึ่งกังวลว่าหากไม่จำกัดจำนวนจะเหมือนประเทศเพื่อนบ้านที่มี 20-30 แห่ง แต่ยืนยันว่า ของไทยจะเป็นการลงทุนระดับแสนล้านบาท ดังนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีการเปิดทุกจังหวัด ทุกอำเภอ แต่รัฐบาลก็ยินดี หากจะให้มีการจำกัด หรือกำหนดพื้นที่ในการเปิด เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องไปคุยกันในระดับกรรมาธิการอีกที

ส่วนข้อเสนอให้ตัด “กาสิโน” ออกไปนั้น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ตรงนี้เป็นโมเดลทางธุรกิจ ต้องยอมรับความจริงที่ว่า ไทยมีการลงทุนบางประเภทเองไม่ได้ เช่น หากเราไปขอให้เอกชนมาลงทุน 3-4 หมื่นล้านบาท เพื่อสร้างอินดอร์สเตเดียม 7-8 หมื่นที่นั่ง แต่ไม่มีกาสิโน เพื่อดึงดูด ตรงนี้ใครจะมาลงทุน เขาจะคืนทุนอย่างไร โมเดลธุรกิจนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ต่างประเทศทำกันเป็นเรื่องปกติ เป็นธุรกิจที่รวมหลายองค์ประกอบเข้าด้วยกัน ซึ่งล่าสุด ก็มี 2 ผู้ประกอบการที่ระบุเลยว่าสนใจ และพร้อมที่จะเข้ามาแข่งขันอย่างเป็นธรรม และเขาเชื่อว่า หากไทยจัดทำ Entertainment Complex จะกลายเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯ และมาเก๊า” นายจุลพันธ์ ระบุ

สำหรับข้อเสนอให้เดินหน้าโครงการ Wellness Complex แทนนั้น นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เดินหน้าทั้ง 2 อย่าง โดยเรื่อง Entertainment Complex เป็นการขับเคลื่อนเรื่องท่องเที่ยว เป็นเพียง 1 ไอเทมเท่านั้น โดย Entertainment Complex จะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก จะทำให้ไทยไม่มีคำว่า Low Season อีกต่อไป และยืนยันว่าโครงการนี้จะไม่ใช่แหล่งพนันออนไลน์ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าไปได้

สำหรับเงินลงทุนนั้น รมช.คลัง กล่าวว่า จะไม่ใช่จากการใช้งบประมาณ แต่จะเป็นการลงทุนจากภาคเอกชนทั้งสิ้น เบื้องต้นประเมินว่า จะมีการลงทุนขั้นต่ำ 1 แสนล้านบาท ส่งผลให้จีดีพีเพิ่มขึ้น 0.23% ในช่วงการดำเนินการ และ 0.2-0.8% หลังเปิดให้บริการ สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยว 1.19-2.38 แสนล้านบาทต่อปี สร้างการจ้างงานได้มากกว่า 9,000-15,300 ตำแหน่ง ทำให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 22,300 บาท/คน/ทริป เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว 5-20% ต่อปี เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วง Low Season 13% ทำให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องทั้งปี

นอกจากนี้ ยังสร้างรายได้ให้รัฐอีกปีละปรมาณ 12,037-39,427 ล้านบาท รายได้ภาษีจากกิจการอื่นๆ 8,773-35,093 ล้านบาท/ปี รายได้จากค่าธรรมเนียมการเข้ากาสิโนขั้นต่ำ 3,700 ล้านบาท/ปี รายได้จากกิจการกาสิโน เช่น ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ภาษีการเล่นพนัน ขั้นต่ำ 3,264 ล้านบาท/ปี ซึ่งรายได้ดังกล่าวนี้ ทำให้รัฐบาลสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาประเทศ เช่น การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานประเทศ, ระบบดูแลสังคม, ระบบการศึกษา และการสร้างสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ

ด้านนายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว รัฐบาลได้เดินหน้าการท่องเที่ยวด้วยการวางเป้าหมายใหม่ ๆ กำหนดยุทธศาสตร์ใหญ่ที่จะทำการท่องเที่ยวแบบไม่รอฤดูกาล และเน้นการท่องเที่ยวที่ ‘สร้างขึ้นใหม่’ ไม่ว่าจะเป็นแผนงานการดึงอีเวนต์ระดับโลกเข้ามาในประเทศ เช่น F1, วิจิตรเจ้าพระยา มหาสงกรานต์, Splash FIVB Volleyball Women’s Nations League , การท่องเที่ยวที่เน้นการสร้างคุณค่า เช่น การทำ THACCA, 5 Must Do in Thailand, Health & Wellness Tourism และ Man-Made Destination เช่น กระเช้าภูกระดึง, Cruise Terminal และ Enterainment Complex

โดย “Entertainment Complex” เป็นเพียงหนึ่งในกลยุทธ์ที่หลากหลาย ในหมวดการยกระดับการท่องเที่ยวเท่านั้น Entertainment Complex ไม่ใช่แค่โซนบันเทิง แต่เป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ประเทศตลอดปี ทำให้ประเทศไทย ‘ไม่มี Low Season อีกต่อไป เพราะ Entertainment Complex เป็น Man-Made Destination ที่จะรวมไว้ตั้งแต่สวนสนุก-สวนน้ำ, พิพิธภัณฑ์, สเตเดียมอเนกประสงค์ในร่ม, พื้นที่สีเขียวเพื่อการพักผ่อนของประชาชน, พื้นที่ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย และสินค้า OTOP, โรงแรม 5 ดาว, ศูนย์นวัตกรรมสำหรับสตาร์ทอัพ และธุรกิจแห่งอนาคต, ห้างสรรพสินค้าครบวงจร และโรงภาพยนตร์, คอนเสิร์ตฮอลล์ระดับเวิลด์คลาส, ศูนย์ประชุมและพื้นที่จัดนิทรรศการขนาดใหญ่, ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์, ท่าจอดเรือยอชท์ และท่าเรือสำราญ, กาสิโน (ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด)

“ทั้งหมดนี้ ผู้ประกอบการไทย SME ไทย จะได้รับประโยชน์ตรงนี้อย่างแน่นอน นี่คือโอกาสที่ประเทศไทยไม่ควรจะพลาดไป ประเทศไทยไม่ใช่ที่แรก เพราะที่ผ่านมา Entertainment Complex ถูกพูดถึง และเป็นโครงการที่หลายประเทศกำลังมุ่งไป โดยคาดการณ์โอกาสในตลาดนี้ สูงถึง 54 ล้านล้านบาท/ปี” นายศึกษิษฎ์ ระบุ

พร้อมย้ำว่า Entertainment Complex ไม่ใช่การพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นคนละเรื่อง แยกกันอย่างชัดเจน เพราะใน พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิง ระบุไว้ชัดเจนว่า พนันออนไลน์ไม่อนุญาตให้เกิดขึ้นในนี้ และรัฐบาลก็เดินหน้าปราบปราม และกำจัดพนันออนไลน์อย่างจริงจัง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มิ.ย. 68)

Tags: , ,