โกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ปรับลดคาดการณ์ความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยลงสู่ระดับ 35% จากเดิมที่มองว่ามีโอกาส 45% ถือเป็นโบรกเกอร์รายใหญ่รายแรกที่เคลื่อนไหวดังกล่าว หลังจากที่การลดภาษีศุลกากรชั่วคราวระหว่างสหรัฐฯ กับจีนช่วยจุดประกายความหวังว่าสงครามการค้าได้ผ่อนคลายลงบ้างแล้ว
นอกจากนี้ โกลด์แมนยังปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯ ในปี 2568 ขึ้น 0.5% สู่ระดับ 1% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ทั้งยังคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในเดือนธ.ค. จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งในปีนี้ โดยล่าสุด โกลด์แมนคาดว่าการลดดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งจะเกิดขึ้นในเดือนมี.ค. และมิ.ย. 2569
ทั้งนี้ สหรัฐฯ และจีนได้ประกาศการบรรลุข้อตกลงปรับลดอัตราภาษีศุลกากรฝ่ายละ 115% เป็นเวลา 90 วันในวันจันทร์ (12 พ.ค.) ส่งผลให้อัตราภาษีของสหรัฐฯ ที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากจีน ลดลงสู่ระดับ 30% จากเดิมที่ระดับ 145% และอัตราภาษีของจีนที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับ 10% จากเดิมที่ระดับ 125%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 พ.ค. 68)
Tags: จีน, ธนาคารกลางสหรัฐ, สงครามการค้า, สหรัฐ, เฟด, เศรษฐกิจสหรัฐ