กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อัปเดตสถานการณ์การระบาดของโรคและภัยสุขภาพ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ดังนี้
โรคโควิด-19
ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-27 พ.ค. 68 พบผู้ป่วยสะสม 211,717 ราย ผู้เสียชีวิต 51 ราย มีแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 17 (ช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์) และในช่วงสัปดาห์ที่ 19-21 พบว่าจำนวนผู้ป่วยสูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 67 โดยในปี 68 พบการระบาดแบบกลุ่มก้อน ส่วนใหญ่พบที่เรือนจำ
ล่าสุด กรมควบคุมโรค เผยสถานการณ์ระบาดโรคโควิด-19 เฉพาะของวันที่ 27 พ.ค.68 พบผู้ป่วยใหม่ 18,062 ราย เสียชีวิต 2 ราย
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า สถานการณ์สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทย ตั้งแต่เดือนม.ค. 67-6 พ.ค. 68 สายพันธุ์หลักที่พบในประเทศไทย ยังเป็น JN.1 สำหรับสายพันธุ์ XEC พบแนวโน้มลดลง จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และจีน รวมถึงประเทศไทย พบจำนวนผู้ติดเชื้อ และผู้ป่วยอาการรุนแรงเพิ่มขึ้น สะท้อนถึงแนวโน้มการกลับมาระบาดของโรคในหลายพื้นที่ทั่วโลก
ดังนั้น จึงควรมีการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินมาตรการป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง เช่น การสวมหน้ากากในสถานที่แออัด และการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล เช่น การล้างมืออย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้มีอาการป่วย หากต้องเดินทางไปต่างประเทศ ควรติดตามสถานการณ์โรคในประเทศปลายทาง เตรียมหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ให้พร้อม หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด หรืออากาศถ่ายเทไม่สะดวก และเมื่อเดินทางกลับ ควรสังเกตอาการของตนเองอย่างน้อย 7 วัน หากมีไข้ ไอ หรือเหนื่อยหอบ ควรพบแพทย์ พร้อมแจ้งประวัติการเดินทางและประวัติเสี่ยง
โรคไข้หวัดใหญ่
ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-27 พ.ค. 68 พบผู้ป่วยสะสม 343,721 ราย มีผู้เสียชีวิต 45 ราย อายุระหว่าง 3-91 ปี เป็นเพศชาย 19 ราย เพศหญิง 26 ราย โดยในผู้เสียชีวิต 45 ราย มีโรคประจำตัว 27 ราย (60%) เช่น โรคไต โรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิตสูง วัณโรคปอด และภาวะบกพร่องทางสติปัญญา เป็นต้น แนวโน้มผู้ป่วยลดลง แต่ยังสูงกว่าปี 67 กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือกลุ่มอายุ 5-9 ปี สายพันธุ์ที่ตรวจพบมากที่สุด เป็น A/H1N1 (pmd09) การระบาดเป็นกลุ่มก้อนของโรคไข้หวัดใหญ่ ส่วนใหญ่พบในโรงเรียน
โรคปอดอักเสบ
ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-27 พ.ค. 68 พบผู้ป่วยสะสม 189,424 ราย ผู้เสียชีวิต 276 ราย แนวโน้มผู้ป่วยลดลงแต่ยังสูงกว่าปี 67 กลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยมากที่สุด คือกลุ่มอายุ 0-4 ปี รองลงมาคือ 60 ปีขึ้นไป ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป
สำหรับคำแนะนำสำหรับโรคติดเชื้อเฉียบพลันระบบทางเดินหายใจ สวมหน้ากากอนามัย เมื่อเข้าไปในที่ที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ หากป่วยติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ ควรหยุดพักรักษาตัวจนกว่าจะหายเป็นปกติ แนะนำ 7 กลุ่มเสี่ยง เข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันเป็นประจำทุกปี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายที่สถานพยาบาลของรัฐ และสถานพยาบาลเอกชนที่ร่วมโครงการ ในช่วงเดือนพ.ค.-ส.ค. 68
โรคไข้เลือดออก
ปี 68 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกต่ำกว่าปีที่ผ่านมา 2.9 เท่า แต่ยังคงพบอัตราป่วยสูงทางภาคใต้ และอัตราป่วยตายสะสมสูง โดยพบผู้ป่วย 11,198 ราย เสียชีวิต 14 ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มวัยเรียน แต่อัตราป่วยตายสูงในกลุ่มอายุ 55 ปี ขึ้นไป
ทั้งนี้ แนะประชาชน ทายากันยุง ใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด หากค้างคืนในป่าเขา ไร่นา ต้องนอนในมุ้ง หรือหามุ้งคลุมเปล สำหรับโรงเรียนแนะนำ ทำความสะอาดห้องเรียนไม่ให้มีมุมมืด สำรวจและกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย หาฝาปิดถังรองน้ำ หรือใส่ทรายกำจัดลูกน้ำ เทน้ำขัง ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน
โรคแอนแทรกซ์
ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-27 พ.ค. 68 พบผู้ป่วยยืนยัน 5 ราย เสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยยืนยันทั้ง 5 ราย เป็นผู้ป่วยจากกลุ่มก้อนการระบาดของโรคแอนแทรกซ์ จังหวัดมุกดาหาร อายุระหว่าง 36-58 ปี เพศชาย 4 ราย เพศหญิง 1 ราย มีประวัติโรคร่วม 2 ราย ได้แก่ โรคเบาหวาน ผู้ป่วยทุกรายเป็นโรคแอนแทรกซ์ที่ผิวหนัง (cutaneous anthrax) มีประวัติเสี่ยง ได้แก่ การชำแหละเนื้อโค และการสัมผัสอุปกรณ์ที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น การถูกมีดบาด
นอกจากนี้ ยังมีการรายงานผู้ป่วยสงสัยโรคแอนแทรกซ์จาก 10 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี สุรินทร์ อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีสะเกษ นครพนม อุดรธานี กาฬสินธุ์ อุตรดิตถ์ และแพร่ ทั้งนี้ ผลการตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการทุกราย ไม่พบเชื้อ Bacillus anthracis การติดเชื้อในคนส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น การชำแหละเนื้อสัตว์ การบริโภคเนื้อสัตว์ดิบหรือปรุงไม่สุก หรือการสัมผัสกับหนังสัตว์หรือขนสัตว์ที่มีเชื้อ หลังได้รับเชื้อประมาณ 1-5 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องรุนแรง มีแผลคล้ายบุหรี่จี้ หายใจขัด หายใจลำบาก หากมีอาการรุนแรง มีโอกาสเสียชีวิตสูง
ดังนั้น แนะนำประชาชน ดังนี้ 1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสโค กระบือ แพะ แกะ 2. ล้างมือ ชำระล้างร่างกายหลังสัมผัสสัตว์ 3. เลือกบริโภคเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรับรองอาหารปลอดภัย 4. หากพบสัตว์ป่วยตายผิดปกติ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทันที 5. หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 พ.ค. 68)
Tags: กรมควบคุมโรค, โควิด-19, โรคแอนแทรกซ์, ไข้หวัดใหญ่, ไข้เลือดออก