สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือนมี.ค.68 อยู่ที่ระดับ 91.8 ลดลงจากเดือนก.พ.68 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 93.4 ซึ่งเป็นผลจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและอาฟเตอร์ช็อก (Aftershock) กระทบต่อความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวและส่งผลให้เกิดการชะลอตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศ มีการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียม ในอัตรา 25% (เริ่ม 12 มี.ค.68) อาจส่งผลให้การส่งออกไปสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดหลักชะลอตัวลง โดยในปี 2567 ไทยมีการส่งออกเหล็กและอะลูมิเนียม คิดเป็น 18.16% และ 13.29% ของการส่งออกทั้งหมด
ภาคท่องเที่ยวมีแนวโน้มชะลอตัวลง จากนักท่องเที่ยวในกลุ่มตลาดหลักที่ลดลงโดยในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เช่น จำนวนนักท่องเที่ยวจีน (-44.92% YoY) และมาเลเซีย (-16.57% YoY) ลดลงจากความกังวลด้านความปลอดภัย และการเข้าสู่ช่วงถือศีลอด
นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุจากยอดส่งออกรถยนต์ลดลง จากการชะลอคำสั่งซื้อของประเทศคู่ค้า เพื่อรอความชัดเจนในนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ทำให้การส่งออกรถยนต์เดือนก.พ.68 มียอดคำสั่งซื้อลดลง 8.34% กระทบอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น ชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ อีกทั้งกำลังซื้อในภูมิภาคยังคงเปราะบาง จากแนวโน้มราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวลดลง โดยเฉพาะข้าว, อ้อย, มันสำปะหลัง
ขณะที่ปัจจัยบวก ได้แก่ มาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น การผ่อนคลายเกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ส่งผลดีต่อคลัสเตอร์วัสดุก่อสร้าง, คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบง.) ปรับลดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อลดภาระค่าพลังงานลง 1 บาท/ลิตร โดยมีผล 2 ช่วงครั้งละ 50 สตางค์/ลิตร ช่วงแรก 28 มี.ค.68 และช่วงสอง 4 เม.ย.68
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 เม.ย. 68)
Tags: ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ท่องเที่ยว, ส.อ.ท., เศรษฐกิจไทย