ดาวโจนส์ปิดบวก 271.69 จุด บอนด์ยีลด์ร่วงหนุนตลาด

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (15 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวลง หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด นอกจากนี้ ดาวโจนส์ยังได้ปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นซิสโก้ ซิสเต็มส์ (Cisco Systems) ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอุปกรณ์เครือข่ายของสหรัฐฯ

  • ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,322.75 จุด เพิ่มขึ้น 271.69 จุด หรือ +0.65%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,916.93 จุด เพิ่มขึ้น 24.35 จุด หรือ +0.41% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,112.32 จุด ลดลง 34.49 จุด หรือ -0.18%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ร่วงลงแตะระดับ 4.43% หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวขึ้น 2.4% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.5% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือนมี.ค. ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวขึ้น 4.0% ในเดือนมี.ค.

ทั้งนี้ การชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปีที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาตราสารหนี้ทั่วโลกซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองด้วยนั้น ช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนในการชำระหนี้ของบริษัทจดทะเบียน

หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคพุ่งขึ้น 2.12% ตามด้วยหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคดีดตัวขึ้น 2% ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มบริการด้านการสื่อสารปรับตัวลง 0.68% และ 0.42% ตามลำดับ

หุ้นซิสโก้ ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 4.8% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ในปีงบการเงิน 2568 โดยได้แรงหนุนจากกระแสความนิยมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)

หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป (UnitedHealth Group) ร่วงลง 11% หลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัลรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กำลังสอบสวนคดีอาญาต่อบริษัทยูไนเต็ดเฮลธ์ ในข้อหาที่อาจเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงโครงการเมดิแคร์ (Medicare) หรือโครงการประกันสุขภาพของรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ยูไนเต็ดเฮลธ์แถลงว่าทางบริษัทยังไม่ได้รับแจ้งจากกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวกับการสอบสวนคดีอาญาตามที่ถูกกล่าวอ้าง

หุ้นวอลมาร์ท (Walmart) ปรับตัวลง 0.5% หลังจากบริษัทเตือนว่าอาจจะเริ่มปรับขึ้นราคาสินค้าในเดือนนี้ เนื่องจากผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากร นอกจากนี้ วอลมาร์ทยังได้ระงับการเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์กำไรในไตรมาส 2/2568 เช่นเดียวกับบริษัทค้าปลีกรายอื่น ๆ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าบริษัทของสหรัฐฯ กำลังได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางธุรกิจที่เป็นผลมาจากมาตรการภาษีศุลกากร

ขณะที่หุ้นอะเมซอน (Amazon) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกคู่แข่งของวอลมาร์ทและได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ด้วยนั้น ร่วงลง 2.4% และเป็นปัจจัยฉุดดัชนี Nasdaq

เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม Thomas Laubach Research Conference เมื่อคืนนี้ว่า อัตราดอกเบี้ยระยะยาวมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลง และนโยบายการเงินกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน นอกจากนี้ พาวเวลกล่าวว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เฟดเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น ส่งผลให้เฟดต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงเป็นประวัติการณ์ และแม้ว่าตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาวยังคงใกล้เคียงกับเป้าหมาย 2% ของเฟด แต่ยุคของอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% อาจจะไม่กลับมาอีกในเร็ว ๆ นี้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานล่าสุด กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าทรงตัว หรือปรับตัว 0.0% หลังจากพุ่งขึ้น 1.7% ในเดือนมี.ค.

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่าตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ทรงตัวที่ระดับ 229,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 พ.ค. 68)

Tags: , , ,