สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (22 พ.ค.) หลังมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส กำลังหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มผลิตน้ำมันในเดือนก.ค. ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้น
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 37 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 61.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 47 เซนต์ หรือ 0.72% ปิดที่ 64.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
สื่อรายงานว่ากลุ่มโอเปกพลัสกำลังหารือกันว่าจะอนุมัติการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันครั้งใหญ่อีกครั้งในการประชุมวันที่ 1 มิ.ย.นี้หรือไม่ โดยหนึ่งในข้อเสนอที่กำลังพิจารณาคือการเพิ่มกำลังผลิตในเดือนก.ค.อีก 411,000 บาร์เรลต่อวัน หรือราว 3 เท่าของแผนเดิม ซึ่งหากมีมติเห็นชอบ ก็จะถือเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่โอเปกพลัสเดินหน้าผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นมากกว่าที่เคยวางแผนไว้
ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวเท่ากับปริมาณที่โอเปกพลัสกำลังเร่งผลิตเพิ่มในเดือนพ.ค.และ มิ.ย. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่ต้องการลงโทษสมาชิกบางประเทศที่ผลิตน้ำมันเกินโควตา โดยใช้วิธีเพิ่มอุปทานเข้าสู่ตลาดเพื่อกดราคาน้ำมันให้ลดต่ำลง
ข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเพิ่มขึ้นแซงหน้าอุปสงค์ โดยล่าสุดองค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะชะลอลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้น
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังปรับตัวลงจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 900,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 816,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 579,000 บาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ค. 68)
Tags: WTI, น้ำมัน WTI, ราคาน้ำมัน