ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (22 พ.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์
- ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 41,859.09 จุด ลดลง 1.35 จุด หรือ -0.003%,
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,842.01 จุด ลดลง 2.60 จุด หรือ -0.04% และ
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,925.73 จุด เพิ่มขึ้น 53.09 จุด หรือ +0.28%
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ให้การอนุมัติอย่างฉิวเฉียดต่อร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณรายจ่ายเมื่อวานนี้ ด้วยคะแนนเสียง 215-214 เสียง ก่อนส่งต่อไปยังวุฒิสภาเพื่อทำการพิจารณาต่อไป โดยแม้ว่าการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้จะเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของรัฐบาลทรัมป์ที่สามารถทำตามคำมั่นสัญญาในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง แต่สำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐฯ (CBO) เตือนว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะทำให้รัฐบาลมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นอีก 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ใน 10 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐฯ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้นและเป็นปัจจัยฉุดตลาด แต่หลังจากสภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวในวันพฤหัสบดี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรได้ชะลอตัวลงและช่วยลดแรงกดดันในตลาด โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวลงสู่ระดับ 4.543% หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.
หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภร่วงลง 1.41% ตามด้วยหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ปรับตัวลง 0.76% ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มบริการด้านการสื่อสารดีดตัวขึ้น 0.56% และ 0.32% ตามลำดับ
หุ้นบริษัทพลังงานแสงอาทิตย์ปรับตัวลง รวมถึงหุ้นเฟิร์สท์ โซลาร์ (First Solar) ร่วงลง 4.3% เนื่องจากร่างกฎหมายภาษีของปธน.ทรัมป์อาจทำให้นโยบายการให้เงินอุดหนุนพลังงานสีเขียว (green-energy) หลายรายการต้องยุติลง
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 227,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 230,000 ราย
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐฯ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 0.5% สู่ระดับ 4.0 ล้านยูนิตในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.15 ล้านยูนิต
เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52.1 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 50.6 ในเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้การขยายตัวของภาคธุรกิจสหรัฐฯ โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของภาคการผลิตและภาคบริการ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ค. 68)
Tags: dowjones, ดาวโจนส์, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก