TRIS จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้วงเงิน 1.8 หมื่นลบ.ของ CPAXT ที่ AA- แนวโน้ม Stable

ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 1.8 หมื่นล้านบาท และไถ่ถอนภายใน 8 ปีของ บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า [CPAXT] ที่ระดับ “AA-” โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปใช้ชำระหนี้เงินกู้เดิมของบริษัท

ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “AA-” โดยแนวโน้มอันดับเครดิตยังคงอยู่ที่ “Stable” หรือ “คงที่” ด้วย

อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะของบริษัทซึ่งเป็นบริษัทย่อยหลัก (Core Subsidiary) ของ บมจ.ซีพี ออลล์ [CPALL] (อันดับเครดิต “AA-/Stable”) โดยสถานะของบริษัทที่มีต่อกลุ่มสะท้อนถึงความสำคัญของบริษัทในการเป็นผู้นำในธุรกิจค้าส่งและธุรกิจค้าปลีก ตลอดจนการสร้างสัดส่วนกำไรที่มีนัยสำคัญต่อกลุ่ม

ในไตรมาส 1/68 ผลการดำเนินงานของบริษัทมีความสอดคล้องกับประมาณการของทริสเรทติ้ง โดยบริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานรวมอยู่ที่ระดับ 1.3 แสนล้านบาท ในขณะที่ EBITDA ของบริษัททรงตัวอยู่ที่ระดับ 9 พันล้านบาท บริษัทมีหนี้สินทางการเงินสุทธิอยู่ที่จำนวน 1.36 แสนล้านบาทและมีอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินสุทธิต่อ EBITDA อยู่ที่ระดับ 3.7 เท่า

ณ เดือนมี.ค. 68 หนี้สินทางการเงินรวมของบริษัทซึ่งไม่นับรวมหนี้สินจากสัญญาเช่าทางการเงินมีจำนวนทั้งสิ้น 9.4 หมื่นล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท อัตราส่วนหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนของบริษัทอยู่ที่ระดับ 17%

ตามข้อกำหนดทางการเงินของตราสารหนี้ที่ระบุให้บริษัทต้องดำรงอัตราส่วนหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนต่ำกว่า 2.5 เท่านั้น ณ เดือนมี.ค. 68 บริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 0.26 เท่า ซึ่งทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทน่าจะสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดทางการเงินดังกล่าวได้ตลอดช่วงระยะเวลา 12-18 เดือนข้างหน้า

แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” เป็นไปตามแนวโน้มอันดับเครดิตของ CPALL และการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งที่มองว่าบริษัทจะยังคงดำรงสถานะกลุ่มในการเป็นบริษัทย่อยหลักของ CPALL ต่อไปและบริษัทจะยังคงเป็นองค์ประกอบสำคัญของรายได้และสถานะทางธุรกิจของ CPALL ต่อไปอีกด้วย

ในฐานะที่เป็นบริษัทย่อยหลักของ CPALL อันดับเครดิตของบริษัทจึงยึดโยงกับอันดับเครดิตของ CPALL ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงใดๆที่เกี่ยวเนื่องกับอันดับเครดิตของ CPALL หรือสถานะกลุ่มของบริษัทก็จะส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของบริษัทด้วยเช่นกัน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ค. 68)

Tags: , , , ,