นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี [MFC] เปิดเผยถึงสถานการณ์การลงทุนในตอนนี้ว่าปัจจุบันความกังวลต่อสงครามการค้าผ่อนคลายลง หลังสหรัฐฯ และจีน บรรลุข้อตกลงในการลดภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกัน โดยสหรัฐฯ จะลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจาก 145% เหลือ 30% ส่วนจีนลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ จาก 125% เหลือ 10% ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 68 และจะมีระยะเวลา 90 วัน ทั้งสองประเทศจะใช้โอกาสนี้ในการเจรจาเพิ่มเติมเพื่อหาข้อตกลงระยะยาวต่อไป
“MFC มองตลาดหุ้นกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว สะท้อนจากดัชนีวัดความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐฯ (VIX Index) ที่ปรับตัวลงจากจุดสูงสุดที่บริเวณ 60 จุด สู่ระดับ 17.25 จุด สะท้อนนักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงในหุ้นสหรัฐฯ มากขึ้น” นายธนโชติ กล่าว
ด้านนักเศรษฐศาสตร์ทยอยปรับลดโอกาสเกิด Recession ของสหรัฐฯ ในปีนี้ลง เช่น JP Morgan ปรับลดความน่าจะเป็นที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเผชิญภาวะถดถอย (Recession) จากระดับ 60% สู่ระดับต่ำกว่า 50% ขณะที่ Goldman Sachs ปรับลดความน่าจะเป็นจากระดับ 45% สู่ระดับ 35% ด้านผลประกอบการไตรมาสที่ 1/2025 ของบริษัทจดทะเบียนในดัชนี S&P500 ส่วนใหญ่ออกมาสดใส โดย 78% ของบริษัทในดัชนี S&P 500 รายงานผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด ในขณะที่อัตราการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS) โดยรวมอยู่ที่ 13.6% สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ MFC มองว่าสามารถทยอยเข้าลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ ได้ แต่ความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีการค้ายังคงมีอยู่ จึงแนะนำให้ลงทุนตามสัดส่วนและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยกองทุนแนะนำ ได้แก่ MGF และ MUSPIN-H, MUSPIN-UH
จุดเด่นของกองทุน MGF กระจายลงทุนในหุ้นเติบโตคุณภาพดี (Quality Growth Stock) ทั่วโลก คัดเลือกหุ้นที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าตลาด เนื่องจากหุ้นประเภทนี้มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูง มีกำไรและรายได้เติบโตสม่ำเสมอ ผลดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนหลัก Threadneedle (Lux) Global Focus Fund โดดเด่น ตั้งแต่ปี 2014-2024 กองทุนหลัก ให้ผลตอบแทนเหนือกว่าดัชนีชี้วัด MSCI ACWI ถึง 9 ปี จากทั้งหมด 11 ปี (Average alpha 3.37%) นอกจากนี้ กองทุนได้รับ Morning Star 5 ดาว และได้รับ Morningstar Sustainability Rating ระดับ 5 globe
สำหรับกองทุน MUSPIN-H, MUSPIN-UH เน้นลงทุนเชิงรุกในหุ้นสหรัฐฯ ที่มีการเติบโต และผันผวนต่ำกว่าดัชนี S&P 500 พอร์ตการลงทุนของกองทุนหลัก JPMorgan Equity Premium Income UCITS ETF มีการกระจายลงทุนกลุ่มอุตสาหกรรม โดยแต่ละอุตสาหกรรมไม่เกิน 20% และหุ้น Top 10 ก็เป็นหุ้นสหรัฐฯ คุณภาพ นอกจากนี้ กองทุนยังลงทุน ใน Options โดยใช้กลยุทธ์ขาย Call Options ในดัชนี S&P 500 เพื่อเพิ่มโอกาสรับรายได้สม่ำเสมอทุก ๆ เดือน เหมาะกับ นักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนใน Portfolio ไปในกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ คุณภาพดี มีความผันผวนต่ำกว่าดัชนี S&P500 และต้องการรับรายได้สม่ำเสมอ
กองทุน MUSPIN-H, MUSPIN-UH มีให้เลือก 2 Share Class ตามวัตถุประสงค์ของนักลงทุน ได้แก่ ชนิดสะสมมูลค่า (Accumulation) และ ชนิดขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (Auto Redemption) ไม่เกิน 12 ครั้งต่อปี เน้นรับรายได้สม่ำเสมอ โดยกองทุนประกาศจ่าย Auto Redemption ไปแล้ว 4 ครั้ง (เมื่อเดือน ก.พ., มี.ค., เม.ย., และ พ.ค.)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 พ.ค. 68)
Tags: MFC, กองทุนรวม, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นโลก, ธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์, หุ้นสหรัฐ, หุ้นไทย